ReMember แค้นเดือดคนดุ 2022 ซับไทย
ตัวอย่างหนัง ReMember แค้นเดือดคนดุ 2022 ซับไทย
ดูหนัง ReMember แค้นเดือดคนดุ 2022 ซับไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ: Remember เป็นผลงานของ ผู้กำกับอีอิลฮยอง เจ้าของผลงานสนุกมันส์ ๆ อย่างเรื่อง A Violent Prosecutor (2016) ซึ่งเป็นงานกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของเขาที่ติด Box Office อันดับที่ 21 ของเกาหลี มียอดตั๋วเฉียด ๆ สิบล้านใบ ส่วน Remember นั้นเป็นผลงานลำดับที่ 2 ของเขา แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายนัก แต่ก็มีแก่นตั้งต้นเรื่องที่ดี โดยอิงมาจากหนังฝรั่งดีกรีรางวัลเรื่อง Remember (2015) ในพล็อตของชายชราสมองเสื่อม ผู้ไล่ชำระแค้นกับอาชญากรสงครามนาซีที่ทำให้เขาต้องสูญเสียครอบครัวไป และผู้กำกับอีอิลฮยองก็สร้างสรรค์งานออกมาได้อย่างน่าดูด้วย
Remember เป็นงานทริลเลอร์ผสมแอ็คชันปนดราม่า เล่าเรื่องของ ฮันพิลซู (รับบทโดย อีซองมิน) ชายชราวัย 80 กว่า อดีตทหารผ่านศึกที่ภายนอกยังคงดูแข็งแรงและพึ่งพาตัวเองได้ เขาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในนาม ‘เฟรดดี้‘ ของร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาเป็นพนักงานที่แข็งขันและสดใสอารมณ์ดี แต่แท้จริงแล้วเป็นเนื้องอกในสมองระยะสุดท้าย และเริ่มออกอาการโรคอัลไซเมอร์ด้วย เขาจึงได้เวลาเริ่มภารกิจที่เตรียมแผนรอมานาน ก่อนที่สมองจะลืมเลือนความแค้นที่ฝังใจมา 60 ปี ที่ครอบครัวถูกกระทำย่ำยีจากทหารญี่ปุ่นและผู้มีอำนาจจากการฝักใฝ่ญี่ปุ่นในยุคจักรวรรดิเข้าครอบครอง ฮันพิลซูไหว้วาน อินกยู (รับบทโดย นัมจูฮยอก) เด็กหนุ่มวัย 20 กว่า ที่เป็นเพื่อนพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านที่ใช้ชื่อว่า ‘เจสัน‘ ให้ช่วยมาขับรถพาไปทำธุระเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ความชวนตะลึงเกิดขึ้นหลังจากอินกยูตกปากรับคำ รถที่เขาจะได้ขับนั้น หรูเกินกว่าฐานะของพิลซูจนน่าสงสัย แต่ก็จูงใจมาก ๆ เพราะนี่คงเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ขับพอร์ชเป็นบุญสักครั้งในชีวิต แถมยังมีเงินชดเชยค่าเสียเวลาให้อีกด้วย ถึงเหตุผลที่พุ่งออกมาอันแรกจะเป็นตัวอินกยูเองก็ขัดสนเรื่องเงิน จนถูกนักเลงเงินกู้นอกระบบไล่ข่มขู่เป็นนิจ แต่อันที่จริงแล้ว ถึงไม่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน อินกยูก็จะทำให้ เพราะเขาเป็นหนุ่มจิตใจดี และมองพิลซูเป็นเพื่อนต่างวัยที่อบอุ่น จริงใจ อยู่ด้วยแล้วมีรอยยิ้มเสมอ ไหน ๆ พิลซูก็ประกาศตัวว่าจะลาออกอยู่แล้วเพราะแก่เกินทำงาน …แต่อินกยูหารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังจะเป็นสารถีพาฆาตกรไปก่อคดีเลวร้ายเป็นชุด ตกกระไดพลอยโจรไปเสียแล้ว องก์แรกของเนื้อหา หลังการเปิดคาแรคเตอร์ตัวละครและความสัมพันธ์อันดีของเพื่อนต่างวัยสุดโต่งแล้ว ก็จะพลิก พิลซู จากความเป็นปู่อารมณ์ดี มีพิษภัยเล็กน้อยพอน่ารักให้ชวนอมยิ้ม ไปสู่ด้านมืดเต็มตัว สีหน้าแววตาสังหารแบบนักฆ่าตัวจริง เตรียมการพร้อมออกรบให้ชวนทึ่ง ทั้งปืนเก่าเก็บฝังดินมาหลายสิบปี บวกอาวุธประดิษฐ์เอง แผนการที่เรียบง่ายแต่เก๋าบ้าบิ่นดี และยังการสักชื่อบุคคลเป้าหมายทุกคนไว้ที่นิ้วมือเพื่อไล่เช็คบิล กันหลงลืมจากอัลไซเมอร์ (เสียดายที่เป็นอักษรคันจิ อ่านไม่ออก ไม่มีซับไทย) และทันทีที่ภารกิจเริ่มต้น อินกยูก็พบความจริงสุดช็อคนี้ หลังจากนั้น ภารกิจก็เจอกับอุปสรรค ทั้งอินกยูที่คัดค้าน ทั้งตำรวจที่เจอเบาะแสตามไล่ล่า รวมถึงเป้าหมายที่ไหวตัวทัน และทำตัวร้ายกว่ามาต่อกรด้วย จึงเป็นช่วงของการต่อสู้ แผนการและฉากแอ็คชั่น บู๊บ้าง รถไล่ล่าบ้างแบบพอหอมปากหอมคอ นำไปสู่องก์สุดท้ายที่จะให้ลุ้นกันว่า ภารกิจของพิลซูจะสำเร็จไหม? เกิดอะไรกับความทรงจำของพิลซูที่เขาพยายามรักษาไว้ อย่างแรกเลย ในแง่ความบันเทิง ก็เรียกได้ว่าครบรสนะ อบอุ่นฟิลกู้ดจากมิตรภาพ มุกขำประปรายแบบถูกที่ถูกจังหวะและพอดี ๆ ไม่ทำเสียความจริงจังของเรื่อง ความระทึกของแผนฆ่าคน การหลบหนีไล่ล่า ดราม่าของที่มาความแค้นและชีวิตพิลซู รวมถึงเซอร์ไพรซ์หักมุมที่ชวนอึ้งชวนสะเทือนใจ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการตั้งชื่อไทยว่า ‘แค้นเดือดคนดุ’ และการโปรโมตหนังให้โดนใจแมส เน้นแอ็คชั่นไล่ล่าและการแก้แค้นโหดหรือเปล่า จนทำให้ผู้ชมคาดหวังไปอีกทางแบบสุด ๆ โดยที่ตัวหนังไม่ได้เสิร์ฟให้แบบสะใจหวังเท่าไหร่นัก เพราะแท้จริงแล้ว ยังมีเนื้อหาอื่นที่ผู้กำกับอยากสื่อมากกว่ามั้ง โดยส่วนตัวผู้เขียน คำว่า ‘Remember’ ของเรื่องนี้ลึกซึ้งดี ถูกใช้เพื่อจะบอกว่า หนึ่ง..ความแค้นที่ต้องจดจำเพื่อเอาคืน สอง..ความจำที่กำลังจะเลือนหาย สาม..ความทรงจำที่สมบูรณ์แท้จริงของพิลซูคืออะไร สี่..ประเด็นการจดจำที่ถูกทิ้งให้คิดกันต่อว่า ชีวิตคนเราควรจะจำอะไรฝังใจอย่างไรแค่ไหนกันนะ
ผู้กำกับแยบคายมากที่ชวนเราให้คิดว่า พิลซูเป็นนักฆ่าที่พกพาความแค้นอย่างบ้าเลือดไร้สติ หรือเขามีสติดีพอที่จะเป็นคนกล้ารับผิดชอบให้ถึงที่สุด คิดให้กว้าง ๆ ออกไปว่า ก็จริงเลยที่คนเรามีความเทา ๆ ยากที่จะบอกว่าทุกการกระทำไม่ได้เห็นแก่ตัว ความแค้นระดับชาติของเกาหลีต่อญี่ปุ่นเป็นเรื่องอ่อนไหว ที่ถูกนำเล่าอีกครั้งในวิธีการใหม่ที่แยบคายอีกเช่นกัน ดูเหมาะกับยุคของผู้ชมปัญญาชนคนรุ่นใหม่ ให้ชวนขบคิดว่า ควรเห็นด้วยกับวิธีการของพิลซูหรือไม่? ผลของประวัติศาสตร์ที่จะเข้ามาอยู่ในชีวิตยุคปัจจุบัน แค่ไหนจึงจะพอเหมาะพอควร สำหรับในเรื่องนี้ก็สะท้อนผ่านคนสองวัยที่ต่างยุค รุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อย่าง พิลซู กับคนรุ่นใหม่แบบ อินกยู ที่อาจบังเอิญได้จุดจบแบบลงตัว ก็ด้วยความเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคน (ปล. ถ้าใครได้ดูหนัง/สารคดีหรือได้อ่านประวัติศาตร์เกาหลีที่ถูกกดขี่ในช่วงจักรวรรดิญี่ปุ่น จะรู้สึกอินและเข้าใจพิลซูได้ลึกซึ้งขึ้น) ความดีงามสำคัญของเรื่องนี้อีกอย่างต้องขอยกให้กับสองนักแสดงนำที่เป็นแกนหลักทั้งเรื่อง อีซองมิน ถ่ายทอดตัวละครพิลซูออกมาได้หลายมิติ ดีเยี่ยมทุกคาแรคเตอร์ อบอุ่นเป็นมิตร ดุดันเลือดเย็น หรือเวทนาน่าสงสาร นอกเหนือจากนั้น ยังเป็นคนแก่ได้แนบเนียนดีด้วย อาศัย Make up อย่างละเอียดที่ใช้เวลาถึง 4 ชม. และแอคติ้งหลังห่อคอตกที่ทำเอาเขาบ่นปวดคอมาก แต่ที่เขาบอกว่ายากสุดคือการแสดงบู๊แบบคนแก่ เออ..จริงแฮะ เลยแอบเห็นบางฉากก็อาจมีหลุดกระฉับกระเฉงเกินวัยไปนิด หรือเมคอัปหน้าก็มีไม่ค่อยเท่ากันด้วย ส่วน นัมจูฮยอก บทเข้าทางมาก เป็นธรรมชาติในการรับส่งอารมณ์กับอีซองมิน เรียกได้ว่านอกจากเคมีเข้ากันดีมากแล้ว อินกยูนี่แหละที่ได้ทำหน้าที่ช่วยส่งให้พิลซูดูผิดน้อยลงและน่าสงสารได้มากขึ้นอย่างเนียน ๆ แต่ทั้งนี้ งานแอ็คชั่น ฉากบู๊ รถไล่ล่า ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แม้จะมีพอร์ชสีแดงมาเรียกความสนใจก็ตาม อันที่จริง การเดินเรื่องที่ค่อนข้างอยู่ในจังหวะเนิบหน่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงแรก ก็สมเหตุสมผลเพราะมันเป็นหนังเล่าถึงคนแก่ การค่อย ๆ ไต่ความตื่นเต้นก็เป็นวิธีสร้างความสนุกอีกแบบ ส่วนความประดิษฐ์บทที่ไม่สมจริงก็มีอยู่บ้าง ถ้าไม่คิดมากก็ไม่รบกวนอารมณ์ในการดูนัก