Unseen สิ่งที่มองไม่เห็น 2023 ซับไทย
ตัวอย่างหนัง Unseen สิ่งที่มองไม่เห็น 2023 ซับไทย
ดูหนัง Unseen สิ่งที่มองไม่เห็น 2023 ซับไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:Unseen สิ่งที่มองไม่เห็น 2023 ซับไทย 1 หญิงสาวที่กำลังเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ต้องหนีจากการไล่ล่าของอดีตแฟน ที่หมายจะเอาชีวิตเธอแลกกับความโกรธแค้น แต่อุปสรรคที่เป็นเหมือนประตูบานใหญ่ที่ปิดกั้นทางรอดของเธอก็คือ “ปัญหาเรื่องการมองเห็น” เมื่อไร้แว่นสายตาภาพตรงหน้าที่หญิงสาวรับรู้ก็พร่ามัวแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งที่สมองของเธอคิดออก ณ เวลานั้น คือการโทรหาใครสักคนผ่าน “วิดีโอคอล” เพื่อให้คนที่อยู่ปลายสายทำหน้าที่แทนดวงตา ทำให้เธอต้องฝากชีวิตไว้กับอีก 1 หญิงสาวแปลกหน้า เจ้าของปลายสายที่เธอโทรหา ที่ต้องรับหน้าที่พาเธอหนีจากความตาย!Unseen (2023) เป็นภาพยนตร์สัญชาติอเมริกันแนวระทึกขวัญ (thriller) เรื่องของหญิงสาว 2 คน ที่แม้ว่าต่างก็เป็นคนแปลกหน้าของกันละกัน แต่ชีวิตต้องมาเกี่ยวข้องกันในสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติตัดสินว่าจะอยู่หรือตาย!หญิงสาวคนแรกคือ เอมิรี่ (Midori Francis) ที่ตื่นขึ้นในกระท่อมกลางป่าแล้วพบว่าตัวถูกลักพาตัว ในสภาพถูกมัดมือมัดเท้า ซึ่งคนที่ทำแบบนั้นก็คือ ชาร์ลี (Michael Patrick Lane) แฟนเก่าของเธอ ที่อัดแน่นความโกรธแค้นที่ถูก เอมิรี่ หักอก สภาพของ ชาร์ลี ในเวลานี้ พร้อมจะระเบิดอารมณ์รุนแรงใส่ เอมิรี่ ได้ทุกเวลา นั่นทำให้เธอต้องสู้เพื่อหนีจากเงื้อมือของมัจจุราชที่มาในคราบของแฟนเก่า ซึ่งระหว่างที่ เอมิรี่ ต่อสู้ดิ้นรนจนหนีออกจากกระท่อมได้สำเร็จ แต่แว่นสายตาของเธอแตกหักเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้อีก และนั่นสร้างปัญหาและอุปสรรคในการหนีจากความตายของเธอครั้งนี้อย่างที่สุด เพราะเมื่อไม่มีแว่น ภาพที่ เอมิรี่ มองเห็นกลายเป็นภาพเบลอเหมือนเลนส์กล้องถ่ายรูปที่ไม่ได้ปรับโฟกัส แทบบอกไม่ได้ว่าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคืออะไรอุปกรณ์ช่วยชีวิหนึ่งเดียวที่ เอมิรี่ มีติดตัวอยู่ตอนนี้ก็คือ โทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าเธอโทรขอความช่วยเหลือจาก 911 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ถึงจะจับสัญญาณจากมือถือได้ว่าเธออยู่ตรงจุดไหนในป่าทึบของมิชิแกน เอมิรี่ รู้ดีว่าถ้าเอาแต่รอความช่วยเหลือจากตำรวจ ก็คงเป็น ชาร์ลี ที่เจอตัวเธอก่อน นั่นทำให้เธอเลือกจะโทรวิดีโอคอลหาใครสักคนเพื่อมาคอยทำหน้าที่แทนดวงตาของเธอ คอยมองผ่านหน้าจอมือถือ ดูว่าเธอควรหนีไปทางไหนและดูว่า ชาร์ลี ตามเธอมาหรือเปล่า ซึ่ง เอมิรี่ เลือกโทรหาหมายเลขล่าสุดที่โทรเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเธอซึ่งเบอร์ที่เธอโทรหา ปลายสายคือ แซม (Jolene Purdy) หญิงสาวอีกคนที่กำลังเผชิญปัญหาบางอย่างในชีวิต เธอทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อในปั้มน้ำมันนอกเมืองฟลอริด้า ซึ่งก่อนเข้างานในวันนั้น แซม ดันโทรผิดเบอร์ ซึ่งเบอร์ที่เธอโทรผิดคือเบอร์ของ เอมิรี่ แซม ตอบรับที่จะช่วย เอมิรี่ หาทางเอาชีวิตรอด แม้ในตอนแรกจะรู้สึกว่ามันยากที่จะเป็นไปได้ แต่ยิ่งได้ช่วยเป็นตาและได้พูดคุยรู้จัก เอมิรี่ มากขึ้นเรื่อยๆ แซม ก็รู้สึกได้จากก้นบึ้งของหัวใจว่าต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้เพื่อนใหม่แปลกหน้าคนนี้มีชีวิตรอดปลอดภัยให้ได้ ซึ่งระหว่างที่ แซม รับอาสาเป็นตาให้กับ เอมิรี่ ผ่านกล้องโทรศัพท์ ตัวเธอเองก็เจออุปสรรคคอยมารบกวนจากลูกค้าระดับไฮโซ ที่จงใจจะมาเอาเปรียบและก่อกวน แซม มากกว่าจะเข้าใช้บริการร้านสะดวกซื้อUnseen ตั้งใจทำให้คนดูได้ลุ้นกับเรื่องราวในภาพยนตร์ทั้งใน part ของ เอมิรี่ ที่ต้องกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอด แต่ก็ใช่ว่าหญิงสาวจะรอความตายเพียงอย่างเดียว เอมิรี่ ก็สวมหัวใจสิงห์ หาทางสู้กลับ ชาร์ลี ถ้าทำให้เขาสิ้นฤทธิ์ได้ก็คงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เธอมีชีวิตรอด ซึ่งนำไปสู่ฉากบู๊ตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งทั้ง เอมิรี่ และ ชาร์ลี ต่างก็อึดทึกทนกันสุดๆ กว่าเรื่องราวจะไปถึงจุดไคลแม็กซ์ก็สะบักสะบอมกันทั้งคู่ ส่วนใน part ของ แซม ที่พยายามหาทางช่วย เอมิรี่ จากเริ่มต้นด้วยความไม่มั่นใจ ไม่เชื่อตัวเองจะช่วยพา เอมิรี่ ให้รอดจากสถานการณ์คอขาดบาดตายครั้งนี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ แซม มีความคิดติดลบกับตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอมีทัศนคติด้อยค่าตัวเอง ไม่เชื่อว่าชีวิตนี้จะทำอะไรสำเร็จ ขนาดแค่เครื่องทำน้ำปั่นเกล็ดหิมะในร้านเสียมาหลายวัน เธอยังหาทางซ้อมไม่ได้ แถมเจ้านายตัวแสบก็จ้องสบประมาทเธอว่าเป็นพวกขี้แพ้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแรงฮึดแรงใจก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้ชมก็จะเริ่มค่อยๆ เอาใจช่วยเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน แต่อุปสรรคที่ แซม เจออาจจะดูเลอะเทอะ และเหมือนหนังตั้งใจให้คนดูมองเป็นเรื่องตลก (ซึ่งไม่ตลก) มากกว่าอยากกระตุ้นให้คนดูรู้สึกลุ้นเหมือนในฝั่งเหตุการณ์ของ เอมิรี่แม้ว่าภาพยนตร์ Unseen ซึ่งเป็นผลการการกำกับเรื่องแรกของ Yoko Okumura ผู้กำกับหญิงชาวญี่ปุ่น จัดเป็นภาพยนตร์ทุนต่ำและถูกสร้างเพื่อฉายผ่านทางสตรีมมิ่ง (ทาง MGM+ ในอเมริกา) แต่ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดย Blum House สตูดิโอที่สร้างสรรค์ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ระทักขวัญชื่อดังนับไม่ถ้วน ทั้ง Paranormal Activity, Insidious, Sinister, The Purge, Get Out, M3GAN และอีกหลายๆ เรื่อง ก็พอจะการันตีได้ในระดับหนึ่งว่าแฟนหนังแนวกระตุกขวัญจะบันเทิงไปกับ Unseen ได้ไม่ยากแนวคิดเรื่องการโทรศัพท์หาคนแปลกหน้าช่วยพาหนีฆาตกร ไม่ใช่ของใหม่ในโลกภาพยนต์ ก่อนหน้านี้เคยถูกใช้มาแล้วในหนังอย่าง Cellular (2004), The Call (2013) และ The Black Phone (2021) แต่ Unseen อาจจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้นอีกนิด ด้วยการใช้รูปแบบ วิดีโอคอลแน่นอนว่ากลวิธีที่ภาพยนตร์เรื่อง Unseen นำเสนอ อาจมีบางจุดที่ดูไม่สมเหตุสมผล (อย่างการวิดีโอคอลกลางป่า โดยที่สัญญาแทบไม่มีสะดุด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาหลายช่วงโมงในการค้นหา เอมีรี่ ผ่านสัญญาโทรศัพท์ หรือเรื่องความอึดทึกทนของโทรศัพท์ที่ เอมิรี่ ใช้ ไม่ว่าจะบู๊แค่ไหนก็ยังใช้งานได้ดีเสมอ) แต่ด้วยเรื่องราวการเอาชีวิตรอด ก็ไม่ยากที่จะทำให้คนดูลุ้นและติดตามไปพร้อมกับ 2 ตัวละครสาว และการเดินเรื่องที่ค่อนข้างกระชับ ก็ช่วยให้คนที่ชอบหนังแนวนี้สนุกไปกับ Unseen ได้ไม่ยากpโดยเฉพาะการเล่าเรื่องในช่วงที่ เอมิรี่ และ แซม เริ่มวิดีโอคอลหากัน หนังใช้วิธีตัดภาพของทั้ง 2 คนให้อยู่ในเฟรมเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะชวนให้ตื่นเต้น ดึงดูดความสนใจ ยังเป็นการเล่าเรื่องแบบย่นย่อว่า 2 ตัวละครนี้จะต้องผูกสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว ซึ่งตรงกับเรื่องราวในภาพยนตร์ที่ความตายกำลังไล่ล่า เอมิรี่ และเธอต้องการความช่วยเหลือจาก แซม โดยเร็วที่สุดและนอกจากความตื่นเต้นลุ้นระทึก Unseen ยังแฝงมุมมองเรื่องชีวิต การเห็นคุณค่าในตัวเอง ในช่วงเวลาที่ความตายใกล้แค่เอื้อม เอมิรี่ ได้รู้ว่าเธอควรมีชีวิตเพื่อใคร ส่วน แซม เมื่อเธอได้มีโอกาสช่วยใครสักคนให้รอดพ้นจากความตาย เธอเองก็ได้เห็นคุณค่าที่มีอยู่ในตัวเองเช่นกัน รวมถึงความสัมพันธ์ที่ทั้ง 2 สาวมีต่อ “แม่” ของตัวเอง ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอ่อนไหวที่เป็นปมในจิตใจของทั้งคู่ ถูกนำมาแชร์แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน แม้ว่าจะไม่ใช่ประเด็นที่มีผลต่อการดำเนินเรื่องหรือจุดไคลแม็กซ์ของหนัง แต่ก็เป็นมุมมองเล็กๆ ที่น่าสนใจที่ภาพยนตร์เรื่อง Unseen ตั้งใจสอดแทรกให้กับคนดู