The Closet ตู้นรก ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด 2020 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง The Closet ตู้นรก ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด 2020 พากย์ไทย
ดูหนัง The Closet ตู้นรก ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด 2020 พากย์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:The Closet ตู้นรก ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด 2020 พากย์ไทย เรื่องราวของ “ซังวอน” (ฮาจองอู) ชายผู้สูญเสียภรรยาจากอุบัติเหตุอันน่าสลด เขาตัดสินใจพา “อีนา” (ฮอยูล) ลูกสาวย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ ด้วยความหวังที่จะซ่อมความสัมพันธ์ที่แตกสลายให้กลับมาดี นานวันเข้าดูเหมือนว่าเรื่องเลวร้ายกำลังจะผ่านไป อีนากลับมามีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ราวกับว่าเธอได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ และการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขอยู่ได้ไม่นาน เพราะซังวอนเริ่มฝันร้าย เขาได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นจากตู้ปริศนา พร้อมทั้งอีนาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในระหว่างการตามหา “คยองฮุน” (คิมนัมกิล) ชายลึกลับก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่า ต้นเหตุที่ลูกสาวของเขาหายไปมาจากตู้ปริศนานี้ ซังวอนจึงต้องเลือกว่า จะเสี่ยงเปิดตู้ปริศนาสุดสยองหรือไม่? และเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าภายในนั้นจะใช่ลูกสาวหรือเปล่า
ด้วยหวังล้างใจจากการสูญเสียไปในอุบัติเหตุรถยนต์ ซังวอน (ฮา จองอู) สถาปนิกหนุ่มได้พา อินา (ฮอยูล) ลูกสาววัย 11 ขวบหนีจากเมืองใหญ่ไปอยู่บ้านพักหรูในป่า แต่สิ่งที่แถมมากับบ้านหลังนี้นอกจากความหรูหราก็คือตู้เสื้อผ้าโบราณในห้องนอนของอินาที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาด ๆ กับตัวอินาทั้งการพูดคุยกับเพื่อนในจินตนาการและยังมีตุ๊กตาผ้าเก่า ๆ ที่ไม่รู้อินาเอามาจากไหน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ ๆ อินาก็หายตัวไปร่วมเดือน จนกระทั่ง คยองฮุน (คิม นัมกิล) หมอผีหนุ่มที่ตามสืบเรื่องราวของเด็กที่หายตัวไปในบ้านได้เข้ามาร่วมมือกับ ซังวอน เพื่อตามหาความจริงและพา อินา กลับมาก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป เรียกได้ว่าจากกระแส Parasite ครองออสการ์น่าจะทำให้ปีนี้เราได้ดูหนังเกาหลีในโรงกันมากขึ้นแน่ ๆ และที่ไม่รอช้าเลยก็คือสตูดิโอเจ้าของเดียวกันอย่าง Cj Entertainment ที่ขอเสิร์ฟหนังสยองขวัญบล็อกบัสเตอร์ทำเงินจากเกาหลีอย่าง The Closet มาให้คนไทยได้ชิมกันต่อ ยิ่งตลาดหนังเมืองไทยที่หนังผีคือแนวหนังชูโรงด้วยแล้ว ก็ไม่ได้ยากเกินคาดเดาเลยว่างานนี้กะมาทำเงินเอาตังค์จากนักดูหนังชาวไทยแน่ ๆ แต่จะทำหนังผีตามกระแสหนังผีเอเซียเหมือนตอนต้นปี 2000 ก็กะไรอยู่ คราวนี้หนังอย่าง The Closet เลยปรุงรสเพิ่มทั้งประเด็นชนชั้นต่อเนื่องมาจาก Parasite และแถมด้วยวัฒนธรรมเชมัน หรือ การไล่ผีอันเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของเกาหลี แล้วมาแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยสูตรหนังสยองขวัญครบรสแบบหนังผีของผู้กำกับ เจมส์ วาน ผลลัพธ์คือหนังสยองขวัญสุดบันเทิงและช่างคิดเรื่องนี้นั่นเอง หลังดูหนังจบสิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนมากคือร่องรอยแรงบันดาลใจของหนังผีแบบเจมส์ วาน ที่อยู่ในแต่ละองค์ประกอบของหนัง โดยเฉพาะประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัว การเล่นกับพื้นที่และสิ่งของในบ้านที่แทบจะเหมือน The Conjuring หรือหนังในตระกูลใกล้เคียงกัน ตลอดไปจนการสอดแทรกอารมณ์ขันเมื่อตัวละครอย่าง คยองฮุน ปรากฎตัวขึ้น แต่ก็ไม่ได้เป็นการเลียนแบบอย่างไร้ยางอายตรงกันข้าม มันยังเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่พยายามหนีไม่ให้หน้าหนังไปเทียบเคียงกับงานหนังฮอลลีวูดเรื่องดัง แถมยังมีศักดิ์ศรีที่พอแข่งกันได้อย่างสมศักดิ์ศรีอีกด้วย สำหรับฉากสยองขวัญที่ส่วนตัวมองว่าน่ากลัวที่สุดหนีไม่พ้นการปรากฎตัวของผีหมอผี และการหลบจากการโจมตีของเหล่าผีเด็กที่ทำให้ ซังวอน ไม่อาจลืมตาได้ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ถือว่าหนังสามารถทำได้อย่างชวนลุ้นระทึก น่ากลัว และสยองขวัญสมใจคนอยากดูหนังผียิ่งนัก แต่กระนั้นก็ตามอย่างที่บอกไปในย่อหน้าที่แล้วว่ามันคล้ายหนังผีของเจมส์ วานตรงที่มันต้องมีครบรสซึ่งก็ทำให้ช่วงหลังของหนังทอนความน่ากลัวออกแล้วไปเน้นให้ลุ้นระทึกไปกับการสอบสวนหาความจริง ที่ก็ดันไปพูดเรื่องชนชั้นแบบเดียวกับ Parasite อีก ซึ่งก็ถือว่าเป็นประเด็นร่วมที่คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้และทำให้บทหนังของ The Closet มีสาระที่ทำให้คนดูได้ออกมาถกเถียงกันต่อได้ดี แม้จะไม่เข้มข้นเท่าของหนังออสการ์เรื่องดังก็ตาม และแน่นอนแล้วว่าสำหรับเกาหลี หนังคือเครื่องมือเผยแพร่วัฒนธรรมดังนั้น The Closet จึงพาเราไปรู้จักกับวัฒนธรรมหมอผี หรือเชมัน ในลัทธิชิน ซึ่งถือเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรมของเกาหลี แถมรัฐบาลยังสนับสนุนงานวิจัยและการสร้างสรรค์งานแสดงจากรากเหง้าวัฒนธรรมนี้อย่างจริงจังด้วย (จริงจังขนาดไหนก็ถึงขนาดผลักดันให้กลายเป็นนาฏศิลป์ร่วมสมัยแสดงที่โรงละครขนาดยักษ์) และก็ดันประจวบเหมาะกับการพยายามผลักดันให้มันมาอยู่ในสื่ออันทรงพลังอย่างภาพยนตร์ โดยก่อนหน้านี้วัฒนธรรมการไล่ผีก็อยู่ในหนังอย่าง The Wailing ของผู้กำกับนาฮงจินมาทีนึงแล้ว และกับ The Closet มันก็ทำให้เกิดตัวละครอย่าง คยอง ฮุน ที่แทบไม่ต่างจากซูเปอร์ฮีโรมาปราบผีหรือหมอผีเท่ ๆ อย่าง คอนแสตนติน ของอเมริกาได้เลย ซึ่งก็ถือเป็นการเอาวัฒนธรรมชามันมาขายให้ชาวโลกได้รู้จักแบบเนียน ๆ ได้อีกด้วย สรุปแล้ว The Closet ก็คือหนังผีดูสนุก ๆ นั่นแหละ มีทั้งฉากผีแฮร่..น่ากลัว ๆ มีทั้งฉากหลบผีชวนลุ้นระทึก รับรองใครที่ชอบตามหนังผีของเจมส์ วาน ก็น่าจะได้อรรถรสไม่แพ้กัน แถมพ่วงด้วยวัฒนธรรมเชมันได้อย่างชาญฉลาดและยังพูดเรื่องชนชั้นต่อจาก Parasite มาเป็นกลวิธีการเฉลยเรื่องได้อย่างชาญฉลาดเลยแหละ