tee yod ธี่หยด 2023 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง tee yod ธี่หยด 2023 พากย์ไทย
ดูหนัง tee yod ธี่หยด 2023 พากย์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:tee yod ธี่หยด 2023 พากย์ไทย ย้อนกลับไปยังกาญจนบุรี ในปี พ.ศ. 2515 ในหมู่บ้านหนึ่ง มีครอบครัวใหญ่ที่ดำรงชีพด้วยการปลูกผักขาย มีหัวหน้าครอบครัวเป็น เฮียฮั่ง (ปลาย ปรเมศร์ น้อยอ่ำ จากหนังเรื่อง ‘สามชุก’ และ ‘บอดี้ ศพ#19’) และ บุญเย็น (เฟรช อริศรา วงษ์ชาลี จากหนังเรื่อง ‘เมล์นรก หมวยยกล้อ’) ที่มีลูกด้วยกันถึง 6 คน อาจจะดูว่ามีลูกมากจัง แต่ก็เป็นจำนวนปกติของคนสมัยนั้นแหละนะ ลูกชายสามหญิงสามที่เริ่มตั้งแต่พี่ชายคนโต ยักษ์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ จากหนังเรื่อง ‘คู่กรรม’ และ ‘อ้าย..คนหล่อลวง’) ที่หายหน้าไปเป็นทหารเสียนานและเพิ่งจะกลับมา ยศ (จูเนียร์ กาจบัณฑิต ใจดี จากละครเรื่อง ’18มงกุฎสะดุดเลิฟ’) พี่ชายคนรองที่ต้องกลายเป็นพี่ชายคนโตหลังยักษ์ไปเป็นทหารเสียนาน ยอด (เฟรนด์ พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ จากละครเรื่อง ‘คู่เวร’) หยาด (เดนิส เจลีลชา คัปปุน จากละครเรื่อง ‘กลเกมรัก’) แย้ม (มิ้ม รัตนวดี วงศ์ทอง จากละครเรื่อง ‘วาสนารัก’) และลูกสาวคนเล็ก ยี่ (นีน่า ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน จากหนังเรื่อง ‘ภาพหวาด’)ในวันที่แย้มเริ่มอาการประหลาดเป็นวันที่ยักษ์กลับมาบ้าน แต่แววตาท่าทางและการพูดจาที่เปลี่ยนไปของน้องสาวทำให้เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ที่รู้คือเขาต้องปกป้องครอบครัวที่เคยทิ้งห่างไปไกล ท่ามกลางเรื่องราวสุดหลอนที่เพื่อนบ้านบอกเล่า และการได้เจอผีร้ายในชุดดำที่ทำให้เขาเดือดดาลบ้าระห่ำกว่าที่เคยเป็น
แม้ว่าหนังมันจะนำมาจากเรื่องเล่าเค้าโครงจริงที่เคยเป็นกระทู้ดัง เคยถูกบอกเล่าในรายการผี ทั้งกำลังมีหนังสือออกจำหน่าย แต่ก็ไม่ได้จำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านั้นก่อนการรับชมแต่อย่างใด ในรอบสื่อ ทีมผู้สร้างแจกหนังสือการ์ตูนไทยที่บอกเล่าถึงที่มาที่ไปของผีร้ายในหนัง นายแพทจึงได้รู้ปูมหลังของผีตนนี้แบบคร่าวๆ ก่อนจะเดินเข้าโรงไปเจอกับผีที่เขาว่าเฮี้ยนยิ่งนัก ครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิก 8 คน โดยมีลูกชายคนโตที่หายหน้าไปเป็นทหารเสียนาน เพิ่งกลับมาบ้านเพื่อช่วยคลี่คลายเหตุประหลาดที่เกิดขึ้นกับน้องสาว ที่ก่อนหน้าก็เคยเกิดเหตุทำนองนี้กับเด็กสาวบ้านอื่นมาแล้ว หนังไม่ได้ปูเรื่องให้นานนัก บอกเล่าเพียงคร่าวๆ ก็เริ่มเข้าเรื่องหลอนอย่างรวดเร็วจู่ๆ แย้มก็มีอาการประหลาดและประหลาดมากขึ้นทุกที หญิงท่าทางน่ากลัวก็โผล่มาให้สมาชิกบางคนเห็น ระหว่างนั้น ชาวบ้านที่ทำงานมาด้วยกันก็เริ่มจะหนีห่าง ก่อนที่ยักษ์จะได้เจอกับตัวเอง บทสวดอะไรสักอย่างที่ลอยลมมาให้ได้ยิน กลายเป็นมนต์ที่สะกดให้หลับ ทั้งหมดพาให้เกิดบรรยากาศความหลอนที่ให้อบอวลทั่วโรงหนัง แต่นอกจากจะทำให้ แย้มมีอาการเหมือนคนถูกผีเข้าสิง มันก็ทำให้คนในบ้านมีอารมณ์แปรปรวนไปด้วยเช่นกัน ยักษ์ที่เคยอารมณ์ดี กลับกลายเป็นคนอารมณ์ร้าย แต่ก็เป็นร้ายในแบบที่ต้องการปกป้องครอบครัว เรื่องนี้ ณเดชน์ คูกิมิยะ สวมบทพี่ชายที่ถือปืนลูกซองออกไปไล่ล่าผีนอกบ้าน แต่ละอย่างที่เขาทำ ชักชวนคนดูให้ลุ้นระทึกไปกับความดีเดือดสู้กลับผี ไม่ต้องกลัวหัวหดกันอีกต่อไป แถมมีฉากเซอร์วิสให้แฟนคลับแบร์รีกรี๊ดลั่นโรงอีกด้วย หนังอาจมีกลิ่นไอที่เราเคยได้สัมผัสจากหนังสยอง/ระทึกขวัญเรื่องอื่นๆ มีความเป็นหนังแนวผีเข้าสิงอย่าง ‘The Exorcist’ มีความบ้าระห่ำวิ่งสู้ฟัดแบบ ‘Evil Dead’ และมีความหลอนชวนลุ้นกระตุกหัวใจแบบ ‘The Conjuring’ ทำให้การเดินทางของเรื่องหลอน ไม่ได้พาแต่ความสะพรึงมาสู่ผู้ชม แต่ยังผสมความบ้าดีเดือดไปพร้อมกัน สร้างสรรค์อารมณ์และรสชาติใหม่ๆ ให้กับหนังผีที่เล่าเรื่องไทยๆ ให้แตกต่างไปจากเดิม และหนังก็ไม่ได้เล่นแต่ jumpscare ที่พาคนสะดุ้งไปวันๆ แต่หันเข้าหาความระทึกปนลุ้น ตัวละครหลักที่บ้าระห่ำอยากฟัดกับผีมากกว่าจะดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยความหวาดกลัว หนังมีฉากตัวเอกที่เดือดดาลถือปืนยิงดะ มีฉากวิ่งในไร่ข้าวโพดที่ดูคุ้นตา (ที่ถ่ายทำมาดีมาก) และหนังก็มีดนตรีประกอบที่บิวด์อารมณ์ลุ้นระทึกที่มิกซ์เสียงมาดีเยี่ยม จนบางช็อตก็รู้สึกว่าดนตรีจะบิวด์เกินไปจนไม่เหลือพื้นที่ให้คนดูได้จินตนาการหนังอาจมีบางส่วนที่พาสะดุดอยู่บ้าง บทพูดที่ดูห้วนๆ อารมณ์รับส่งที่ไม่ค่อยสมูท ความสัมพันธ์เชิงดราม่าระหว่างตัวละครในครอบครัวที่ยังเล่าได้ไม่ละเอียดพอ และนักแสดงที่แคสต์มาก็อาจจะไม่ได้หน้าไทยแบบที่คนสมัยก่อนจะเป็น แต่กับการเล่าเรื่องที่ชักชวนคนดูมาเล่นรถไฟเหาะก็กลบเกลื่อนความไม่สมบูรณ์แบบเหล่านั้นไว้ได้