Even If This Love Disappears from the World Tonight คืนฝันก่อนฉันลืมเธอ 2022 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง Even If This Love Disappears from the World Tonight คืนฝันก่อนฉันลืมเธอ 2022 พากย์ไทย
เรื่องย่อ:Even If This Love Disappears from the World Tonight คืนฝันก่อนฉันลืมเธอ 2022 พากย์ไทย เพราะถูกแรงกดดันจากเพื่อนร่วมชั้นที่มักจะกลั้นแกล้งเขา โทรุ คามิยะ จึงจำใจสารภาพความรู้สึกกับเพื่อนผู้หญิงที่เรียนห้องเดียวกับเขา มาโอริ ฮิโนะ ว่าเขารู้สึกชอบเธอ พวกเขาจึงวางแผนที่จะออกเดตด้วยกัน โดยที่มีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวที่ว่า “ห้ามตกหลุมรักกันเด็ดขาด” และความสัมพันธ์ของคู่ในฐานะคู่เดตก็ไปเป็นได้สวย
ในความเป็นคนชอบดูหนังของดูไปบ่นไปที่ดูได้ทุกแนวทุกสัญชาติหากมีความน่าสนใจแต่สิ่งที่ต้องทำใจอยู่อย่างคือหลังจากย้ายถิ่นฐานกลับบ้านเกิดมาใช้ชีวิตในชนบทก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดูหนังอย่างช่วยไม่ได้ เพราะโรงหนังที่อยู่ใกล้บ้านผู้เขียนที่สุดวัดระยะทางคือต้องขับรถข้ามเขาไปกลับร่วมสามร้อยกิโลซึ่งเป็นภาระอันหนักอึ้ง ทำให้หนังที่จะได้ดูในโรงนั้นต้องการันตีความบันเทิงทั้งครอบครัวที่คุ้มค่าจะขับรถมาเพื่อเสียเงินอีกเป็นพันเพื่อดูหนังสักเรื่อง นั่นคือว่าหนังนอกกระแสที่ผู้เขียนเคยตีตั๋วดูคนเดียวหรือหนังที่เข้าฉายในวงจำกัดบางเรื่องก็ไม่อาจติดตามชมได้ และที่โชคร้ายคือหนังแบบนี้มักจะเป็นหนังญี่ปุ่นชั้นดีที่ความจริงไม่ควรพลาดแต่ต้องพลาดเพราะข้อจำกัดเหล่านั้นที่ว่ามา ซึ่งทางเลือกสุดท้ายคือการต้องรอดูทางหนังแผ่นสมัยก่อนที่ยังต้องลุ้นว่าจะมีมาหรือไม่ในพื้นที่ห่างไกลเพราะหนังบางเรื่องอาจไม่ถูกตลาด กระนั้นในปัจจุบันเมื่อถึงยุคของสตรีมมิ่งที่มีหนังญี่ปุ่นให้ดูมากมายหลากหลายเก่าใหม่เพียบพร้อมหนังที่เคยอยากดูแต่ถูกกลบฝังในความทรงจำก็ได้ดูเช่นเดียวกับเรื่องนี้ มาโอริ ฮิโนะ (ริโกะ ฟูกุโมโตะ) ตื่นขั้นมาพร้อมกับข้อความติดผนังมากมายเพื่อเตือนตัวเธอเองให้รู้ว่าเมื่อตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลเธอจะจำอะไรในวันวานไม่ได้เพราะสมองเสื่อมจากอุบัติเหตุ ทางออกคือเธอต้องเปิดอ่านไดอารี่ที่ถูกบันทึกในคอมพิวเตอร์ทุกเช้าก่อนที่จะใช้ชีวิตเป็นปกติต่อไป จนเมื่อเช้าหนึ่งเธอพบว่าอาการของเธอดีขั้นโดยที่ตื่นขึ้นมาเธอจำเมื่อวานได้ข้อความต่างๆจึงถูกเก็บออกไปแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอพบในที่หลืบเร้นของห้องของเธอคือรูปชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอวาดไว้ในสมุด มาโอริจึงไปถามเพื่อนสนิทอิซูมิ วาทายะ (โคโทเนะ ฟูรุคาวะ) แล้วเรื่องก็เผยว่าเมื่อตอนที่มาโอริยังไม่ดีขึ้นคือเมื่อตื่นจะลืมทุกอย่างนั้นมีชายหนุ่มมาขอคบกับเธอเอาดื้อๆและเธอก็ตอบรับเอาดื้อๆ คนคนนั้นคือคามิยะ โทรุ (ชุนสุเกะ มิชิเอดะ) ที่เมื่อตอนขอคบอาจมีเหตุผลบางอย่างแต่เมื่อได้เป็นแฟนกันหลอกๆโดยที่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่ชอบกันแบบจริงจังแต่เมื่อเวลาผ่านความสุขที่ได้เติมเต็มหัวใจก็ทำให้กฎที่ว่าถูกแหก แล้วเมื่อความทรงจำของเมื่อวานจะไม่อยู่ในวันพรุ่งนี้คนทั้งคู่จะรักกันได้อย่างไรแล้วตอนนี้โทรุหายไปไหน? ยังคงเรียบเรื่อยแต่สวยงามที่คราวนี้อาจไม่ต้องตีความเพราะใช้เพลงชี้นำความรู้สึก เพรานี่คือหนังญี่ปุ่นที่ความเป็นญี่ปุ่นจะเล่าเรื่องเรียบเรื่อยไม่เร่งเร้าไม่บีบคั้นที่คนที่คุ้นกับหนังญี่ปุ่นจะทราบดี อีกสิ่งที่หนังญี่ปุ่นโดดเด่นคือบทสนทนาที่จับใจได้โดยไม่ต้องพยายามขยี้หรือพยายามคมนั่นคือเป็นบทสนทนาทั่วไปแต่ก็เหมือนมีอะไรให้คิด และสุดท้ายภาพและเพลงเพราะหนังญี่ปุ่นจะเก่งในการใช้ภาพและเพลงสื่ออารมณ์ที่โดยทั่วไปงานด้านภาพจะเด่นแล้วให้เพลงคลอพลิ้วแผ่วแต่เรื่องนี้เพลงกลายมาเป็นตัวชี้นำความรู้สึกและกำหนดอารมณ์ ทำให้เมื่อหูได้สดับพร้อมกับตาได้จับจ้องสิ่งที่หนังต้องการมอบให้คนดูก็จะรับรู้ได้โดยที่บางทีไม่ต้องเอ่ยอะไรออกมาเช่นตอนที่มาโอริตื่นขั้นมาริมทะเล กระนั้นถ้าจะมองข้ามการเล่าเรื่องที่ย้อนความรู้สึกก็ใจร้ายเพราะเหมือนเป็นภาพสะท้อนความทรงจำให้คนดูอยากรู้ว่าเขาและเธอจะพัฒนาความรักครั้งนี้อย่างไรเมื่ออีกฝ่ายจะไม่มีความทรงจำนั้นในวันรุ่งขึ้น แน่นอนอารมณ์ลุ้นก็จะมาและคิดเข้าข้างตัวเองว่าจะต้องมีทางออกที่สวยงามแต่นี่คือหนังญี่ปุ่นที่ความพลิกผันจะมาแบบเนียนๆที่ยิงตรงสู่ความรู้สึกในส่วนลึกจนสุดท้ายก็เกินจะกลั้น ซาบซึ้งตราตรึงเมื่อว่ากันที่สมองกับหัวใจที่ส่งผลต่อร่างกายกับเรื่องความรักและความทรงจำที่ตอกตรึงไว้ ความฉลาดของบทหนังที่วางเรื่องความทรงจำไว้เหนือเรื่องความรักเพราะความรักก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ แล้วคำถามที่ตามมาคือเมื่อความทรงจำหายไปความรักจะหายไปพร้อมความทรงจำหรือไม่ที่เมื่อมองแค่นี้เชื่อเถอะว่าใครก็คิดว่าความรักจะเลือนหาย กระนั้นความยอดเยี่ยมก็คือการวางเรื่องของความทรงจำไว้ให้มีรูปแบบเป็นรูปธรรมไม่ใช่นามธรรมเมื่อความรักเป็นเรื่องของหัวใจแต่ความทรงจำเป็นเรื่องของสมองความรักและความทรงจำอาจแยกจากกันได้ แน่นอนหนังบอกว่าไม่มีความทรงจำไหนจะสลายไปได้อย่างสิ้นเชิงเพราะมีความทรงจำรูปแบบหนึ่งที่จะไม่เลือนหายนั่นคือความทรงจำของร่างกายและกล้ามเนื้อที่จะจำสิ่งที่เราทำบ่อยๆได้ แล้วความรักที่ถูกตอกตรึงไว้ในความทรงจำของร่างกายก็ทำให้แม้ความทรงจำทางสมองจะเสียหายแต่ความรักจะยังคงอยู่ในตัวเราตลอดไป แน่นอนเมื่อได้ย้อนกลับมาอ่านไดอารี่แม้จะไม่มีความทรงจำแต่ก็เปี่ยมสุขเพราะความรักที่ถูกตรึงไว้นั่นเอง อาจเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่เลือกเล่าอีกมุมที่มิติทับซ้อนเกาะกุมหัวใจได้ เมื่อดูหนังเรื่องนี้ที่ว่ากันที่หญิงสาวที่จะจำอะไรที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ได้หลังจากตื่นขึ้นมาสารภาพว่าผู้เขียนคิดไปถึงหนัง 50 First Dates (2004) หรืออาจเป็นฉบับรีเมค 50 First Kisses (2018) ที่ว่าด้วยเรื่องเดียวกัน แต่ความเยี่ยมคือการมองในอีกมุมคือการมองเรื่องความทรงจำและการสร้างความทรงจำที่ดีในมุมของผู้ที่เสียความทรงจำไม่ใช่มองในมุมของคนที่สร้างความทรงจำอย่างหนังเรื่องนั้น ซึ่งแม้จะมองในมุมนี้แต่ก็ไม่ได้ทิ้งในมุมของคนที่สร้างความทรงจำคือโทรุที่อาจต้องชื่นชมว่ามิติทับซ้อนของด้านโทรุก็มีความลึกและเกาะกุมหัวใจได้ นั่นคือโทรุคือคนที่พยายามสร้างความทรงจำที่ดีให้คนที่เขารักมีความสุขแต่ไม่สามารถก้าวข้ามอดีตได้แต่ในขณะที่มาโอริไม่มีอดีตให้ก้าวข้ามเพราะเมื่อตื่นขึ้นมาจะไม่มีอดีตให้จดจำ หนังเล่าด้านของโทรุอย่างคมคายและเข้าถึงเพื่อให้เข้าใจจนสุดท้ายที่พี่สาวของโทรุบอกไว้ว่าอดีตที่เจ็บปวดเธอก็อยากลืมมันไปแต่มาโอริโชคดีที่ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวด…แต่ทำไมคนดูถึงรู้สึกเจ็บปวดกันนะ
การแสดงที่เฉิดฉายสื่อความรู้สึกได้แต่เหมือมีอะไรทำให้ไม่สุดสำหรับบางคน สำหรับเรื่องความรักและความทรงจำที่ความรักไม่ได้ประทับในซอกหลืบความทรงจำของสมองแต่ตอกตรึงไว้กับหัวใจและร่างกายนั้นริโกะ ฟูจิโมโตะคือความเฉิดฉายที่คนดูต้องรักและอยากให้เธอรักหรืออยากมอบความทรงจำที่ดีให้เธอ ซึ่งถ้าว่ากันที่มิติเชิงอารมณ์ริโกะ ฟูจิโมโตะคือตัวกำหนดให้คนดูรู้สึกในทุกอารมณ์ความรู้สึกคนดูจึงไม่อาจละสายตาจากเธอ ส่วนชุนสุเกะ มิชิเอดะนั้นก็แสดงได้ดีรับผิดชอบบทที่ต้องสื่อให้คนดูรับรู้ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วแต่น่าเสียดายที่เหมือนกับมีเงาของฟูกูชิ โซตะทาบทับอยู่ทั้งรูปร่างหน้าตาและบุคลิกแม้กระทั่งรอยยิ้ม ทำให้เหมือนดูฟูกูชิ โซตะแสดงมากกว่าซึ่งอาจหมายความว่าเขาไม่มีบารมีของตัวเองที่จะเป็นเอกลักษณ์จนไม่อาจขโมยสายตาคนดูมาจากริโกะ ฟูจิโมโตะ หนังยังได้การแสดงในบทสมทบที่ลงลึกถึงรากฐานทางอารมณ์ของพระนางจากโคโทเนะ ฟุรุคาวะและโฮโนกะ มัตสึโมโตะขวัญใจผู้เขียน โดยเฉพาะรายหลังที่พลังดาราจัดมากเมื่อขึ้นจอจะสามารถขโมยซีนได้ทุกที นี่ไม่ใช่แค่หนังดีแต่เป็นหนังเรื่องเยี่ยมที่จับเอาความรู้สึกมาแขวนไว้กับเรื่องที่คนทั่วไปสัมผัสได้ ความจริงหนังน่าจะใช้ชื่อไทยว่า “แม้ว่ารักนี้จะหายไปจากโลกในคืนนี้” ตรงๆแบบนี้น่าจะดีกว่าถ้ามองในมุมผู้เขียนเพราะสื่อความหมายในหนังได้ตรงตัวกว่ากับสิ่งที่หนังบอกเล่า เพราะความรู้สึกของคนดูจะรู้สึกว่าความรักของมาโอริที่เกิดขึ้นในทุกวันแต่ก็หายไปในทุกคืน แล้วเอามาผูกกับเรื่องที่เป็นปัจเจกเรื่องที่คนทั่วไปสัมผัสได้กับเรื่องความรักและความทรงจำที่เกิดขึ้นได้ลบเลือนได้แต่ไม่อาจสูญสลายได้ทั้งหมด แม้ว่าจะพยายามลบความทรงจำเกี่ยวกับใครออกไปได้อย่างในหนังแต่ความรักมีพลานุภาพเกินไปเพราะความรักจะเป็นความทรงจำที่ถูกตอกตรึงแน่นหนาไว้ และจะติดอยู่ในตัวเราตลอดไปไม่ว่าความรักนั้นจะลงเอยแบบไหนหรือครั้งที่เท่าไหร่ ความยอดเยี่ยมคือเล่าเรื่องให้คิดและรู้สึกตามว่าถ้าเราลบความทรงจำเกี่ยวกับใครได้หรือไม่ได้ความรู้สึกนั้นจะเป็นอย่างไร แล้วเล่าได้ซาบซึ้งเปี่ยมสุขและโศกเศร้าและที่น่าทึ่งคือเล่าได้ลงตัวถูกจังหวะจนกลายเป็นความยอดเยี่ยมที่ถ้าดูซ้ำก็คงรู้สึกเหมือนเดิม