เสียง : ไทย

6.3

ดูหนัง Crooked House คดีบ้านพิกล คนวิปริต 2017 พากย์ไทย เต็มเรื่อง

เรื่องย่อ:Crooked House คดีบ้านพิกล คนวิปริต 2017 พากย์ไทย นวนิยายและเรื่องสั้นมากมายของอากาธา คริสตี้เป็นผลงานที่ได้รับความนิยมตลอดกาล เนื่องจากเรื่องราวที่เล่าได้อย่างงดงาม ประหยัด และมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ไม่น่าแปลกใจที่ผลงานดัดแปลงของเธอยังคงถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่มากมาย แม้ว่าผลงานเหล่านี้จะได้รับความนิยมในสหราชอาณาจักรทางวิทยุและโทรทัศน์เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือชื่อดังหลายเรื่องทั่วโลก รวมถึงเรื่องที่กำกับโดยบิลลี ไวล์เดอร์ แฟรงก์ แทชลิน และซิดนีย์ ลูเม็ต ในปีนี้เพียงปีเดียว เคนเนธ บรานาห์ได้กำกับและแสดงนำในภาพยนตร์ดัดแปลงเรื่อง Murder on the Orient Express ของคริสตี้ภาคที่สี่ ซึ่งประสบความสำเร็จทางการค้าอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีภาพยนตร์ดัดแปลงอีกเรื่องหนึ่งของคริสตี้ที่แอบเข้าฉายก่อนสิ้นปี นั่นคือเรื่อง Crooked House ซึ่งเป็นเรื่องราวลึกลับในห้องรับแขกที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ขนาดใหญ่ของบรรพบุรุษผู้โหดร้ายที่เพิ่งเสียชีวิตไป น่าเสียดายที่ผู้กำกับ Gilles Paquet-Brenner ไม่เคยใส่ใจที่จะใส่ประกายแห่งชีวิตเข้าไปในการดัดแปลงที่มีความสามารถของเขาเลย ไม่ต้องพูดถึงคุณสมบัติที่จำเป็นอื่นๆ เช่น ความระทึกขวัญหรือความบันเทิง นี่เป็นการฝึกฝนความลึกลับที่น่าเบื่อหน่ายซึ่งเน้นการแสดงของนักแสดงที่รวมตัวกันแบบสุ่ม (Glenn Close! Gillian Anderson! Christina Hendricks! Terrence Stamp?) แต่เหล่านักแสดงไม่เคยดูเหมือนจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น “Crooked House” จึงดูไม่มีชีวิตชีวาเหมือนกับศพที่เป็นศูนย์กลางของเรื่อง โครงเรื่องค่อนข้างจะใกล้เคียงกับเนื้อหาต้นเรื่อง: นักสืบเอกชน Charles Hayward (Max Irons ผู้ไม่มีเสน่ห์หรือบุคลิกเลย) ได้รับการว่าจ้างจาก Sophia de Haviland (Stefanie Martini) เพื่อไขคดีฆาตกรรมที่อาจเกิดขึ้นกับคุณปู่ผู้มั่งคั่งของเธอ เฮย์เวิร์ดรับคดีนี้เพราะความรักในอดีตของเขากับฮาวิลันด์ แต่เขารู้ในไม่ช้าว่าเขาได้สมัครใจทำมากกว่าที่เขาต่อรองไว้เมื่อเห็นได้ชัดว่าสมาชิกทุกคนของตระกูลลีโอไนด์เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการตายของหัวหน้าครอบครัว เขาค่อยๆ ซักถามทุกคนและพบว่าความอิจฉา ความขมขื่น และความโลภได้แพร่ระบาดไปทั่วทั้งตระกูล ทำให้เฮย์เวิร์ดไม่สามารถเข้าใกล้ความจริงได้ ในไม่ช้า ความลับก็ถูกเปิดเผย และเกิดการพลิกผัน ในที่สุดก็นำไปสู่จุดสุดยอดที่ระเบิดเถิดเทิงซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัยที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ปาเกต์-เบรนเนอร์และผู้เขียนร่วมอีกสองคน (รวมถึงจูเลียน เฟลโลว์ส ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “Gosford Park”) จัดการกับการเปิดเผยเรื่องราวลึกลับในตอนท้ายได้ค่อนข้างดี แม้ว่าการจัดฉากจะดูไม่เป็นระเบียบ แต่ก็เป็นการเดินทางที่ไม่รู้จบเพื่อไปถึงจุดจบนั้น เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่ภาพยนตร์ใช้เวลามากมายในการปูเรื่องเบื้องหลังของเฮย์เวิร์ด แต่กลับทำให้เรื่องไม่เกี่ยวข้องเมื่อเผชิญหน้ากับปริศนาหลัก (ฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะใช้ได้ผลดีกว่าในหน้านี้) การตัดสินใจเน้นไปที่ความโรแมนติกของเฮย์เวิร์ดและฮาวิลแลนด์เป็นการตัดสินใจที่เข้าใจได้มากกว่า เนื่องจากเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของเรื่อง และนำเสนอความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างนักสืบและผู้ต้องสงสัย แต่ไอรอนส์กับมาร์ตินีแทบไม่มีเคมีร่วมกันเลย และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ลืมความสัมพันธ์ของพวกเขาไปอย่างสะดวกในช่วงเวลาอันยาวนาน ความตึงเครียดที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างเฮย์เวิร์ดและสกอตแลนด์ยาร์ดก็แทรกซึมเข้ามาในลักษณะเดียวกันโดยแทบไม่มีเหตุผลเลย องค์ประกอบที่น่ารำคาญอื่นๆ แทรกซึมอยู่ใน “Crooked House” เช่น การตัดต่อที่หละหลวมและดนตรีประกอบที่น่ารำคาญ แต่จุดอ่อนที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือปริศนาที่แท้จริงไม่มีความเร่งด่วนหรือมีน้ำหนัก เป็นเรื่องยากที่จะโทษใครเพียงคนเดียวสำหรับปัญหาเช่นนี้—เป็นไปได้ว่าบทภาพยนตร์ทำให้ผู้แสดงผิดหวังหรือในทางกลับกัน หรือผู้กำกับไม่สามารถทำให้บทและการแสดงดีขึ้น—แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีช่องว่างที่ศูนย์กลางของภาพยนตร์ที่ไม่สามารถละเลยได้ นักแสดงอย่าง Close และ Anderson ชัดเจนว่าชอบเล่นเป็นตัวละครของตนเพราะพวกเขามีความทั่วไปเพียงพอที่จะให้ตีความได้อย่างไม่เหมือนใคร แต่ถึงกระนั้น อารมณ์ที่แสดงออกมาก็ไม่เคยเกินเลยขอบเขตกว้างๆ ของพวกเขา Paquet-Brenner กระจายข้อมูลใหม่ด้วยจังหวะที่เหมาะสม แต่ไม่มีหลักฐานชิ้นใดที่รู้สึกว่ามีความสำคัญแม้แต่น้อย แม้แต่การหลอกลวงก็ตาม ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสับสนในการแปลโดยผู้คนที่เคารพนับถือพรสวรรค์ของ Christie อย่างชัดเจนแต่ไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้ผลงานของเธอโดดเด่น มีประกายของความเก๋ไก๋และเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ตลอดทั้งภาพยนตร์ เช่น การแสดงที่น่าประทับใจของ Honor Kneafsey วัยหนุ่มในบท Josephine ผู้ซุกซน และฉากอาหารค่ำที่กั้นไว้อย่างดีซึ่งทำให้สามารถยิงกันในครอบครัวได้อย่างสนุกสนาน อย่างไรก็ตาม “Crooked House” เป็นการดัดแปลงเรื่องราวของ Christie ที่น่าเบื่อและน่าเบื่อ ซึ่งต้องการมือที่แข็งแกร่งกว่าและรสนิยมในการสนุกสนานท่ามกลางความเศร้าหมอง แทนที่จะเป็นแบบนั้น เรามีภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในระดับปานกลางในผลงานของ Christie บางทีคนอื่นอาจจะลองอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้