The Travelling Cat Chronicles ผมแมวและการเดินทางของเรา 2018 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง The Travelling Cat Chronicles ผมแมวและการเดินทางของเรา 2018 พากย์ไทย
ดูหนัง The Travelling Cat Chronicles ผมแมวและการเดินทางของเรา 2018 พากย์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:The Travelling Cat Chronicles ผมแมวและการเดินทางของเรา 2018 พากย์ไทย ซาโตรุ” (โซตะ ฟุคุชิ) เป็นชายหนุ่มอบอุ่น ใจดี และรักสัตว์ เขามีแมวอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า “นานะ” ซึ่งเขาเก็บมาเลี้ยงหลังจากมันประสบอุบัติเหตุ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาไม่สามารถเลี้ยงมันได้อีกต่อไป เขาจึงพานานะออกเดินทางเพื่อตามหาบ้านใหม่ให้นานะ หาคนที่เชื่อว่าจะสามารถเลี้ยงดูแมวตัวโปรดของเขาได้อย่างดีแทนเขา ระหว่างเดินทาง ซาโตรุได้เจอผู้คนมากมาย รวมถึงเพื่อนในสมัยเด็กและรักแรกของเขา ไม่เพียงแค่นั้นความลับที่เขาซ่อนมานานก็เผยออกมา ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนหัวใจสลาย รวมทั้งเจ้านานะด้วย
สัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิดคนมนุษย์เราในแบบที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน คงจะหนีไม่พ้นน้องหมาแล้วก็เจ้าแมวเหมียวแน่ ๆ นอกจากรูปร่างหน้าตาขนปุยที่ดูน่ารักแล้ว พวกเขายังเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้แล้วก็ผูกพันกับเจ้าของเอามาก ๆ เราสามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อกลับบ้านมามันจะรอต้อนรับคุณอยู่ โดยไม่ปริปากบ่นแม้คุณจะกลับมาดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม…เอ๊ะ ฮ่าฮ่าซาโตรุ (Sôta Fukushi) หนุ่มทาสแมวที่เก็บ เจ้านานะ แมวจรจัดมาเลี้ยง ในทีแรกความสัมพันธ์ของ ซาโตรุกับนานะ ไม่ราบลื่นมากนัก เมื่อเจ้าเหมียวออกอาการหยิ่งเล่นตัว ไม่ยอมมาอยู่กับ ซาโตรุ ง่าย ๆ แต่ในที่สุดแล้วเจ้าเหมียวนานะ ก็ยอมใจอ่อนให้กับ ซาโตรุ เพียงแต่ว่าในตอนนี้ ซาโตรุ มีความจำเป็นทำให้ต้องแยกจากนานะ ซาโตรุ จึงตัดสินใจติดต่อเพื่อน ๆ เพื่อของให้พวกเขารับเลี้ยงเจ้า นานะ ไว้ชั่วคราว นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของคู่ซี้คนกับเหมียว ที่จะร่วมกันออกไปรำลึกถึงมิตรภาพความหลังระหว่างผู้คน ผ่านสัตว์เลี้ยงที่กลายมาเป็นสายใยเชื่อมโยงพวกเขาเข้าหากันเอาเรื่องย่อสั้น ๆ ประมาณนี้ก็แล้วกัน เพราะหนังเล่าผ่านประสบการณ์ชีวิตของตัวละครเอก ซาโตรุ ในการกลับไปพบปะผู้คน เพื่อนฝูง ในแต่ละช่วงวัยของตนเอง สตอรี่ของหนังเลยเหมือนเป็นการเอาเรื่องราว ที่เป็นช่วงชีวิตเวลาสั้น ๆ เหล่านั้นมาร้อยเรียงต่อกัน มากกว่าการเล่าด้วยเส้นเรื่องยาวเส้นเดียวหลังจากดู The Traveling Cat Chronicles (2018) เรื่องนี้จบ มีบางส่วนของหนังเหมือนกัน ที่ทำให้นึกย้อนไปถึงหนังเรื่อง A Story of Yonosuke (2013) เพื่อนที่ใคร ๆ ก็จดจำ เมื่อหนังเล่าย้อนไปถึงแต่ละช่วงวัยของ ซาโตรุ ตั้งแต่ชั้นประถมกับ ซาวาดะ โคสุเกะ (Ryôsuke Yamamoto) เพื่อนวัยเด็กกับจุดเริ่มต้นของเจ้าเหมียวฮาจิ เพื้อนซี้ตัวแรก ที่ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวแตกต่างกันวัยมัธยมปลายกับ ชูสุเกะ สุกิ (Takuro Ohno) และ ชิคาโกะ (Alice Hirose) สองเพื่อนซี้วัยเด็ก ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของ ซาโตรุ ผ่านประสบการณ์ของการเป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน รวมทั้งความความรักความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาว ที่ไม่ได้เป็นรักสามเศร้าแต่กลายเป็นรักเศร้าเพียงคนเดียวอีกจุดหมายปลายทางของ ซาโตรุและเจ้านานะ ก็คือบ้านของ โนริโกะ (Yuko Takeuchi) น้าสาวของ ซาโตรุ ที่รับอุปการะเขา หลังจากสูญเสียพ่อและแม่ไป แม้เธอจะพยายามเป็นผู้ปกครองที่ดีของ ซาโตรุ ในตอนนั้น แต่ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องย้ายที่อยู่บ่อย ทำให้ ซาโตรุ ต้องอยู่ห่างทั้งจากเจ้า ฮาจิ เหมียวเพื่อนซี้ตัวแรก ส่วนความสัมพันธ์กับเพื่อนวัยเดียวกัน ไม่ทันได้สนิทกับใครก็มีอันต้องได้ย้ายที่อยู่ตลอด เมื่อถึงจุดหมายปลายทางเรื่องราวของ ซาโตรุ มันจึงให้ความรู้สึกเดียวกันกับ ความรู้สึกที่มีต่อเรื่องราวของ โยโนะสุเกะ ที่เขาเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี ที่ใคร ๆ ต่างจดจำประสบการณ์ช่วงชีวิตที่มีร่วมกับเขาได้อีกประเด็นหนึ่งที่ออกจะสวนทางกับธีมของหนัง อันนี้ไม่แน่ใจว่าหนังตั้งใจจะหยิบเอามาสื่อสารหรือเปล่า หรือว่าผมมโนมากเกินเนื้อหาไป ก็คือ ความเหมือนกันของ ซาโตรุและนานะ ที่ทำให้ แม้จะต่างสายพันธ์กัน แต่มันก็ทำให้สายใยระหว่างกันแนบแน่นยิ่งขึ้น ประเด็นนี้ก็คือ “การถูกทอดทิ้งไม่เป็นที่ต้องการ” เมื่อ ซาโตรุ เองทั้งเคยถูกทอดทิ้งมาก่อน แล้ววันหนึ่งที่สูญเสียพ่อและแม่ไปเขาต้องตกอยู่ในสภาพเดิมซ้ำสองอีกครั้งคือ การกลายเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ ถูกผลักไสไม่มีใครอยากดูแล เหมือนกับเจ้าเหมียวนานะ แมวจรจัดที่ไม่มีเจ้าของ มีแต่เพียง ซาโตรุ ที่คอยดูแลใส่ใจ จากจุดนี้มันจึงทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมเจ้าเหมียวนานะ ถึงไม่อยากไปอยู่กับคนอื่นแม้เขาเหล่านั้นจะเต็มใจรับ หรือ ซาโตรุ ที่ใจจริงก็ไม่อยากแยกจากกันไปหากมันไม่ถึงที่สุดแล้วจริง ๆแม้ผมจะไม่ค่อยอินกับเรื่องคนและแมวในเรื่องเท่าไหร่ แต่เอาจริงฉากดราม่าเรียกน้ำตาช่วงท้ายก็ทำให้อึน ๆ ได้เหมือนกัน เพราะเรื่องราวที่ร้อยเรียงมามันทำให้รู้ว่าจะความผูกพันระหว่างคนกับคน หรือว่าคนกับสัตว์เลี้ยงมันก็มีคุณค่าต่อความรู้สึกทั้งนั้น หากมันสร้างความสุข คุณค่าในชีวิต หรือช่วยเยียวยาบาดแผลข้างในใจได้