The Pursuit of Happyness ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ 2007 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง The Pursuit of Happyness ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ 2007 พากย์ไทย

ดูหนัง The Pursuit of Happyness ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ 2007 พากย์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:The Pursuit of Happyness ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ 2007 พากย์ไทย เรื่องจริงที่ถูกนำมาสร้างเป็นนิยาย ของวีรบุรุษนักขายฝีมือดีที่สุด ที่กลายเป็นตำนานของอเมริกา ตีแผ่หนทางพิชิตความจนของ เซลล์แมนฝีมือเลิศ คริส การ์ดเนอร์ (รับบทโดย วิล สมิธ) ที่ครั้งหนึ่งต้องแบกภาระเป็นหางเสือนำทางให้ครอบครัวพ้นจากภาวะยากจน แต่เพราะพิษเศรษฐกิจรุมเร้าเกินเยียวยา ภรรยาของคริสจึงทิ้ง เขา และลูกชายวัย 5 ขวบ คริสโตเฟอร์ (จาเดน คริสโตเฟอร์ ไซร์ สมิธ) ให้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจติดลบเพียงลำพัง คริส กลายเป็นคุณพ่อหม้ายลูกติด ที่ต้องกัดฟันสู้กับความจนอย่างรุนแรง บ่อยครั้งที่เขาต้องกระเตงลูกชายตัวน้อยออกเร่ร่อนเหมือนคนจรจัด กับเงินติดกระเป๋าเพียง 1 ดอลลาร์ แต่เพราะใจสู้ บวกกับความฉลาด เขาสู้ยิบตาเพื่อนที่ให้ค่าจ้างสูงขึ้น เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของลูกชายสุดที่รัก ..หลังจากรับรู้รสชาติของความจนถึงขีดสุด วันหนึ่งหนทางสู่ความสุขของ 2 พ่อลูกก็ปรากฏขึ้น..เมื่อคริสเดินผ่านหน้าบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ เขาสังเกตเห็นว่าทำไมคนที่นี่ถึงมีรอยยิ้มที่มีความสุข ในขณะที่เขาทุกยากแสนสาหัส คริสเกิดไอเดียใหม่ ..เขาควรทำงานเกี่ยวกับการเงิน คริสจึงมุ่งมั่นสู่การเป็นโบรคเกอร์ ในบริษัทตลาดหลักทรัพย์ยักษ์ใหญ่ เขาใช้มันสมอง มาพลิกแพลงเป็นกลเม็ดการขายได้อย่างน่าทึ่ง และด้วยพลังแห่งความรักที่มีต่อลูก กลายเป็นแรงฮึดมหาศาลที่นำพา คริส ไปสู่การเป็นสุดยอดเซลแมนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา นักแสดง วิล สมิธ จาเดน คริสโตเฟอร์ ไซร์ สมิธ (ลูกชาย วิล สมิธ) เทนดี้ นิวตัน
เรื่องราวสุดสะเทือนใจของพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดิ้นรนเลี้ยงดูลูกชายในความยากจนข้นแค้นของยุคเรแกนเรื่องนี้เป็นเสมือนตัวอย่างผลงานออสการ์ชิ้นสำคัญของวิลล์ สมิธ เขารับบทเป็นคริส การ์ดเนอร์ พนักงานขายอิสระที่เอาแต่ขายเครื่องสแกนกระดูกให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อให้ได้เปรียบพนักงานบังคับคดีอยู่หนึ่งก้าว การ์ดเนอร์ซึ่งพยายามดิ้นรนเพื่อหนีจากชีวิตที่ไร้เงินทองจนหมดตัวได้รับทุนการศึกษาจากบริษัทนายหน้าซื้อขายหุ้นโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพบกับความโกลาหลวุ่นวายมากขึ้นตอนนี้ คริส การ์ดเนอร์ตัวจริงกลายเป็นเศรษฐีพันล้าน และเนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้อิงจากเรื่องราวชีวิตของเขาเองจากความยากจนสู่ความร่ำรวย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะดูเหมือนนักบุญผู้เสียสละชีวิตตลอดทั้งเรื่อง แต่ภรรยาของเขา (แถนดี้ นิวตัน) กลับจากไปอย่างอารมณ์ร้ายภายในไม่กี่นาที ทิ้งให้การ์ดเนอร์ดูแลลูกวัยห้าขวบ (รับบทโดยเจเดน ลูกชายในชีวิตจริงของสมิธ) พ่อและลูกได้ผูกพันกันเล็กน้อยขณะที่พวกเขาย้ายจากที่พักชั่วคราวแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งอย่างไรก็ตาม The Pursuit of Happyness นั้นดูไม่ค่อยน่าเบื่อเท่ากับที่ตัวละคร Winfrey แสดงให้เห็น ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง โดยผสมผสานความเห็นอกเห็นใจคนไร้บ้านเข้ากับข้อความอนุรักษ์นิยมอย่างแน่วแน่ว่า คุณก็สามารถกลายเป็นเศรษฐีได้เช่นกัน ภาพยนตร์กระซิบว่า เพียงแค่คุณลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง สมิธทุ่มเทเวลาให้กับมันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการไปส่งลูกที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรืออ่านหนังสือสอบนายหน้าซื้อขายหุ้น ชายผู้น่าสงสารคนนี้ใช้เวลาสองในสามส่วนของภาพยนตร์ไปกับการวิ่งจ็อกกิ้งไปมาในซานฟรานซิสโก ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูเหนื่อยล้า“หลีกเลี่ยงความรู้สึกหวานเลี่ยน”สมิธเป็นคนดีเยี่ยมเหมือนเช่นเคย และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูกชายก็เป็นไปอย่างอบอุ่น แต่แล้วจะไม่เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร Happyness (ชื่อเรื่องมาจากการขีดเขียนกราฟิตีผิดๆ ด้านนอกศูนย์รับเลี้ยงเด็กของการ์ดเนอร์ จูเนียร์) สมควรได้รับคำชมเชยที่หลีกเลี่ยงความรู้สึกหวานเลี่ยน แต่การเน้นย้ำอย่างไม่ลดละว่าเงินเป็นยารักษาโรคทุกโรคก็ทำให้หดหู่ใจ พวกเขาอาจเรียกมันว่า The Pursuit of Richyness ก็ได้