Damsel ดรุณีผู้พิชิต 2024 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง Damsel ดรุณีผู้พิชิต 2024 พากย์ไทย
ดูหนัง Damsel ดรุณีผู้พิชิต 2024 พากย์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:Damsel ดรุณีผู้พิชิต 2024 พากย์ไทย พบ มิลลี บ็อบบี บราวน์ ในบทสาวผู้เคร่งครัดในพรมจรรย์ที่ตกลงแต่งงานกับเจ้าชายรูปงาม แต่พบว่าราชวงศ์ของเจ้าชายองค์นั้นหวังใช้เธอเพื่อเป็นเครื่องบูชายัญลบล้างหนี้เก่าในอดีต งานนี้เธอจะใช้ปฏิภาณไหวพริบและความมุ่งมั่นเพื่อหนีจากถ้ำที่ถูกกักขังและมีมังกรไฟเฝ้าไว้ได้ยังไงกัน
ภาพยนตร์แฟนตาซีแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์จาก Netflix ที่พลิกโฉมเทพนิยายเจ้าหญิงให้กลายเป็นนักรบผู้ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากมังกรร้าย นำแสดงโดย มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ ดาวรุ่งจากซีรีส์ Stranger Things ร่วมด้วยนักแสดงชั้นนำอย่าง โรบิน ไรท์, แองเจลา บาสเซตต์ และ นิก รอบินสันDamsel มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เร้าใจ ผสมผสานความแฟนตาซี ฉากแอ็คชั่นลุ้นๆ และการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างเข้มข้น ตัวละครมีมิติ น่าติดตาม โดยเฉพาะ อโลดี (มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์) ที่แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม ถ่ายทอดความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และสื่อถึงความซับซ้อนของตัวละครได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ผมจะขอยกประเด็นที่เป็นเชิงวิเคาระห์ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาเป็นข้อๆ เมื่อหลายปีก่อนมีเพลงหนึ่งที่เข้ามาสร้างกระแสความแตกต่างในวงการเพลงไทยนั่นคือ “เจ้าหญิงคนต่อไป” ของวง Blissonic ทั้งท่วงทำนองดนตรีที่มีกลิ่นสังเคราะห์ และสำคัญคือเนื้อหาที่ไม่ต่างจากนิทานและเล่าเรื่องได้แปลกใหม่ไม่น้อย ว่าด้วยเจ้าหญิงที่ถูกขังบนหอคอยรอเจ้าชายมาช่วย แต่สุดท้ายเจ้าชายก็ถูกปีศาจสังหาร เจ้าหญิงเลยหนีออกมาจากปราสาทแล้วไปท่องโลกเสียเอง นับว่าเป็นแนวคิดแบบสตรีนิยมที่ถือว่ามาได้แบบพอดีมาก ๆ ซึ่งหนัง ‘Damsel’ เองก็เป็นพลังงานในแบบเดียวกันที่ทำได้ลงตัว และเน็ตฟลิกซ์ก็เลือกจังหวะฉายให้ตรงกับวันสตรีสากลด้วย นี่เป็นผลงานที่นักแสดงสาวลูกรักเน็ตฟลิกซ์อย่าง มิลลี่ บ็อบบี บราวน์ (Millie Bobby Brown) จากซีรีส์แฟรนไชส์ ‘Stranger Things’ (2016-2022) และหนังแฟรนไชส์ ‘Enola Holmes’ ได้เข้ามาดันโปรเจกต์ของมือเขียนบท แดน มาโซ (Dan Mazeau) จาก ‘Wrath of the Titans’ (2012) และ ‘Fast X’ (2023) ซึ่งถ่ายทอดงานนิทานแฟนตาซีที่มีกลิ่นเสียดสีเรื่องเล่าโบราณและสนับสนุนการต่อสู้ของผู้หญิงโชยมาตั้งแต่ชื่อเรื่องเลย เพราะ “Damsel in distress” เป็นกลวิธีการเล่าเรื่องสำคัญอันหนึ่งมาตั้งแต่สมัยกรีกว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวผู้อยู่ในอุปสรรคอันทุกข์ยาก ถูกขังไว้ ถูกลักพาตัว หรือหมายปองโดยปีศาจร้าย เพื่อรอให้เจ้าชายหรือวีรบุรุษมาช่วยเหลือ ซึ่งในเรื่องราวของมาโซก็เริ่มต้นมาในแบบเดียวกันก่อนจะกลายเป็นอะไรที่แตกต่างจากขนบบราวน์ได้รับบท อีโลดี ลูกสาวเจ้าเมืองบ้านนอกที่ยากจน ซึ่งโชคชะตานำพาเธอให้ได้รับเชิญจากอาณาจักรใหญ่ไปแต่งงานกับเจ้าชายหนุ่มหล่อ ทว่าในค่ำคืนแรกที่เธอมาถึง อีโลดีก็มองเห็นหญิงสาวแปลกหน้าที่สวยราวกับท่านหญิงสูงศักดิ์ในห้องห่างไกล ทว่าวันถัดมาห้องนั้นก็ร้างราวกับไม่เคยมีผู้พำนักมาก่อน บางอย่างที่ดูผิดวิสัยเกิดขึ้นรอบตัว แต่มันก็ถูกนำเสนอว่าอาจเป็นเพียงความหวั่นใจของหญิงสาวที่ก้าวพ้นวัยและหวาดกลัวการแต่งงานในวันอภิเษกสมรสเจ้าชายพาอีโลดีไปทำพิธีแต่งงานโบราณของตระกูลในหุบเขา พร้อมเรื่องเล่าปรำปราว่ากษัตริย์องค์แรกสร้างอาณาจักรขึ้นโดยทำสัญญากับมังกรตัวสุดท้ายที่โกรธเกรี้ยว ว่าจะยอมสังเวยลูกสาวของตน 3 คนในทุกชั่วอายุคนเพื่อแลกกับความสงบสุขของอาณาจักร …ฟังถึงตรงนี้ ผู้ชมก็พอเดาอะไรได้บ้างแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องราวแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ถือว่าหนังมันมีการปูเรื่องที่แข็งแรงที่เราอยากเอาใจช่วยหญิงสาวอย่างอีโลดีให้รอดปลอดภัย และเฝ้ารอได้ดูฉากที่เธอกลับไปแก้แค้นพวกผู้คนที่ล่อลวงให้สำเร็จ เฉกเช่นเดียวกับหนังแนวล้างแค้นที่มีตัวละครหญิงรับบทเหยื่อเมื่อการปูเรื่องมันเข้าถึงง่ายและน่าสนใจพอ ที่เหลือจึงเป็นหน้าที่ของผู้กำกับ ฮวน คาร์ลอส เฟรสนาดิลโล (Juan Carlos Fresnadillo) ที่เคยฝากฝีมือแนวดราม่าธริลเลอร์ไว้ใน ’28 Weeks Later’ (2007) และ ‘Intruders’ (2011)’ ที่จะนำพาช่วงกลางเรื่องที่อีโลดีต้องเอาตัวรอดจากมังกรในวงกตปริศนาจนกลับออกมาให้สนุกขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งช่วงนี้เป้นช่วงที่มีอะไรให้เล่นเยอะมาก มีความแฟนตาซีเช่นโถงถ้ำที่มีหนอนเรืองแสง ปริศนาคำใบ้ที่ขีดเขียนตามผนังถ้ำชี้นำทางรอดให้อีโลดีอันมาจากหญิงสาวหลายสิบหลายร้อยคนตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาที่ตกเป็นเหยื่อและช่วยกันเขียนสิ่งที่ตนเองรุ้ทิ้งไว้ให้หญิงสาวในอนาคตเพิ่มโอกาสรอดมากขึ้น มันเป็นสตอรี่ที่น่าสนใจมาก ๆ แถมอิงร้อยกับประวัติศาสตร์การต่อสู้ของผู้หญิงในโลกที่ชายเป็นใหญ่ได้อย่างน่าสนใจมาก ๆแต่น่าเสียดายว่าผู้กำกับเฟรสนาดิลโลจับจุดพลาดไปหน่อย ที่พยายามไปเน้นตัวมังกรมากเกินไป จนทำให้ส่วนดีอื่น ๆ มันจางหายไป อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่าส่วนในการเผชิญหน้ากับมังกรนั้นก็น่าสนใจจริง ๆ ตั้งแต่การปรากฏตัวที่ราวหนังสยองขวัญ การค่อย ๆ เผยรูปลักษณ์อันแตกต่างน่าตรึงตาและหวาดกลัวของเจ้ามังกรเพศเมียที่ระอุแค้นจนไม่สนใจรับฟังใคร อันกลายเป็นพลอตหนึ่งของหนังที่เปรียบเปรยให้ตีความขับเคลื่อนเรื่องของการจัดการอารมณ์ของผู้หญิงได้อย่างน่าสนใจอย่างมาก ว่าถ้าผู้หญิงจัดการอารมณ์ได้และร่วมมือกันพวกเธอก็เอาชนะได้ทั้งอาณาจักร ซึ่งส่งพลังสำหรับวันสตรีสากลได้ดีแบบดูไม่รู้สึกยัดเยียดเกินไปส่วนที่น่าติงสักนิดก็คงมีงานซีจีที่ไม่นิ่ง ตัวมังกรได้รับการพิถีพิถันอย่างดี ทว่าเอฟเฟกต์ของไฟที่เป็นตัวแทนความแค้นนั้นกลับยังไม่ค่อยเนียนมากนักเมื่อเทียบกับงานใกล้เคียงกันอย่างซีรีส์ ‘Avatar: The Last Airbender’ (2024) ที่เพิ่งฉายไป รวมถึงในฝั่งของไทยนั้น งานพากย์เสียงยังเรียกอารมณ์ได้ห่างจากฉบับดั้งเดิมพอสมควรโดยเฉพาะความน่ากลัวของมังกร ถ้าแนะนำก็ให้ดูแบบเสียงเดิม ๆ ซับไทยจะดีกว่า