Galveston ไถ่เธอที่เมืองบาป 2018 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง Galveston ไถ่เธอที่เมืองบาป 2018 พากย์ไทย

ดูหนัง Galveston ไถ่เธอที่เมืองบาป 2018 พากย์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:Galveston ไถ่เธอที่เมืองบาป 2018 พากย์ไทย หลังจากได้รับการหลบหนีจากการตั้งค่าเพชฌฆาตที่ตายแล้วและกลับมาที่บ้านหลักของกัลเวสตันซึ่งเขาตั้งใจที่จะส่งมอบผลตอบแทนให้กับนักฆ่ามืออาชีพที่มีพรสวรรค์ Roy Cody (Ben Foster) ได้รับการศึกษาว่า “Galveston” นอกจากนี้การกัดฝุ่นก็ไม่นานหลังจากทราบข่าวอันน่ากลัวในไม่ช้ารอยขอให้ผู้จัดการเก็บรวบรวมวัตถุประสงค์โดยไม่ต้องใช้อาวุธ เขาตระหนักดีอย่างแท้จริงว่าและนั่นคือกลยุทธ์ท้ายที่สุดที่จะรวบรวมเขา แต่แยกออกจากรอยสามารถหนีได้เช่นเดียวกันเขาก็ช่วยร็อคกี้ (เอลเลนแฟนนิ่ง) หญิงสาววัย 19 ที่ถูกจับที่นั่น “ไถ่เธอที่เมืองบาป” ทั้งคู่ออกเดินทางไปนอกเมืองเพื่อไปยัง Galveston ที่อยู่อาศัยหลักของ Roy ที่ซึ่งเขาจะปฏิเสธที่จะอยู่ที่นั่นระยะหนึ่งและวางแผนที่จะตอบโต้ แต่การเดินทางไป Galveston นั้นไม่ง่ายอย่างที่คุณสงสัย แม้จะถูกสังหารโดยผู้ค้นหา Roy Rocky ยังคงมีแรงจูงใจมากมายที่จะหยุดกลางคัน หนึ่งในนั้นคือการเลิกรับทิฟฟานี่ (twin Aniston และ Tinsley Pryce) น้องสาวของ Rough ไป Galveston ด้วยกัน
“Galveston” เปรียบเสมือนเพลงที่คุ้นเคยแต่ไม่ได้พิเศษอะไรมากมายนัก แต่ถูกนำมาเรียบเรียงและขับร้องใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม เรื่องราวของนักบังคับใช้กฎหมายวัยกลางคนที่อาจจะป่วยหนักจนเกือบเสียชีวิตของแก๊งสเตอร์ในนิวออร์ลีนส์ ผู้ขัดขวางความพยายามของเจ้านายที่ต้องการสังหารเขา จากนั้นจึงออกเดินทางกับหญิงบริการวัย 19 ปีที่ถูกมือสังหารของเขาจับเป็นตัวประกัน เรื่องราวไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่คิดเสมอไป เช่น แม้แต่ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างพระเอกทั้งสองก็ไม่มี เพราะเขาไม่สนใจเธอแบบนั้น แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ของเรื่อง ซึ่งดึงมาจากนวนิยายของนิค พิซโซแลตโต ผู้สร้างและนักเขียนบท “True Detective” นั้น คุ้นเคยกันดีจนบางครั้งอาจชวนให้นึกถึงแนวทางการเขียนนิยายอาชญากรรมแบบฉบับของ Mad Libs นั่นคือ เติมส่วนที่ขาดหายไปด้วยตัวละครใดตัวละครหนึ่งจากจำนวนที่กำหนดไว้ แล้วเสริมแต่งด้วยการแสดงและการกำกับ เพื่อให้ทุกคนดูสมจริงราวกับเป็นมนุษย์ การที่เนื้อเรื่องเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจน้อยที่สุดของหนังคงไม่สำคัญอะไร หากผู้เล่าเรื่องละทิ้งมันไปและเลือกใช้อารมณ์ล้วนๆ ซึมซับบรรยากาศและสไตล์ ซึ่งก็คือความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จนอดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นว่ามันดูไม่จริงจัง ถึงกระนั้น แม้จะมีข้อจำกัด หนังเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นละครอาชญากรรมที่เข้มข้นและทรงพลัง แม้จะฉายสั้นก็ตาม เบน ฟอสเตอร์ ผู้รับบทรอย เคดี้ กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงนำหญิงที่ยอดเยี่ยมแต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ เฉกเช่น แวน เฮฟลิน หรือเกล็นน์ ฟอร์ด เขาแสดงได้อย่างโดดเด่นในบทบาทอันธพาลที่พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ความเหมาะสมที่ฝังแน่นอยู่ในตัวเขากลับถูกปลุกขึ้นมาในที่สุดด้วยความกลัวความตาย รวมถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่มีต่อผู้อื่นอย่างกะทันหัน เอลล์ แฟนนิง รับบทร็อคกี้ โสเภณี ที่เกลี้ยกล่อมรอยให้อ้อมไปบ้านเก่าของเธอและบอกให้เขารออยู่ในรถ เธอโผล่ออกมาหลังเสียงปืนและพาทิฟฟานี น้องสาวตัวน้อย (รับบทโดยฝาแฝด ทินสลีย์ และแอนนิสตัน ไพรซ์) ไปตามถนนสู่กัลเวสตัน ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นที่โมเทลใกล้ชายหาด ช่วงที่ดีที่สุดคือช่วงกลางเรื่อง ซึ่งรอย ร็อคกี้ และทิฟฟานี ก่อตั้งครอบครัวเดี่ยวแบบมีสถานการณ์ (เป็นอีกหนึ่งสำนวนที่คุ้นเคยในเรื่องราวแบบนี้ แต่ทำด้วยความละเอียดอ่อนและสติปัญญา) รอยยืนกรานที่จะแยกห้องโมเทลออกจากร็อคกี้และทิฟฟานี แต่คืนหนึ่งพวกเขาต้องนอนเตียงเดียวกับรอยเพราะร็อคกี้ฝันร้าย สีหน้าของฟอสเตอร์เมื่อรอยตื่นขึ้นมาพร้อมกับมือเล็กๆ ของเด็กที่ปิดตาข้างหนึ่งเป็นช่วงเวลาที่แจ่มชัด เป็นภาพแห่งการตรัสรู้ที่ตัวละครไม่ได้ตระหนัก เมื่อรอยและร็อคกี้แบ่งปันเรื่องราวบาดแผลทางใจให้กันและกัน รวมถึงเราด้วย นักแสดงก็แสดงออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งหาได้ยากในภาพยนตร์อาชญากรรมแบบฮาร์ดโบลด์ ซึ่งมักจะมีโทนที่เย็นชาและอาศัยการกดขี่และการอนุมาน ฉากเปิดเผยอารมณ์บางฉากนั้นดิบเถื่อนจนดูยาก นักแสดงแทบจะสำลักน้ำตาตัวเอง โบ บริดเจส ผู้รับบทหัวหน้าแก๊งอาชญากร มีฉากสั้นๆ เพียงไม่กี่ฉาก ตัวละครนี้เป็นคนตัวเล็กที่หลงตัวเองว่ายิ่งใหญ่ แต่เขาก็ยังคงน่ากลัวและน่ารังเกียจ และฉากสุดท้ายของเขานั้นน่าขนลุก โรเบิร์ต อารามาโย จาก “Nocturnal Animals” ขโมยซีนหนังไปได้ชั่วครู่ในบทบาทโจรหนุ่มหน้าตาเฉยแต่มีเสน่ห์ ผู้พยายามล่อลวงพระเอกให้ไปปล้นห้องแล็บยาเสพติด (ตัวละครไหนที่โอ้อวดว่าตัวเองเป็น “หัวขโมย และเป็นหัวขโมยที่เก่งกาจ” ก็คงเป็นคนโง่) ซี.เค. การที่ McFarland มารับหน้าที่ผู้จัดการโมเต็ล Galveston ถือเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของการทำให้ตัวละครรองรู้สึกเหมือนเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ มีคุณค่า และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ นวนิยายเรื่องนี้เล่าเรื่องด้วยมุมมองบุคคลที่หนึ่งจากมุมมองของ Roy ด้วยสำนวนภาษาที่สวยหรู ซึ่ง (ในความคิดของผู้อ่าน) ไม่ค่อยเหมาะกับพระเอกที่โหดเหี้ยมและถูกทำร้ายจิตใจเท่าไหร่ บทภาพยนตร์ซึ่งให้เครดิต James Hammett (ซึ่งรายงานว่าใช้นามแฝงของนักเขียนนวนิยายผู้นี้ ซึ่งไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงของผู้กำกับ) ได้ปรับโครงเรื่องต้นฉบับใหม่ให้ดูห่างเหินและสังเกตการณ์มากขึ้น โดยไม่มีเสียงพากย์ แต่มีหลายฉากที่เราได้นั่งดูผู้คนพูดคุยและประพฤติตัว องค์ประกอบภาพอันหลากหลายของ Arnaud Poiter ผู้กำกับภาพได้รับการจัดแสงและการวางกรอบอย่างงดงาม แต่แทบจะไม่รู้สึกว่ายุ่งยากหรือลื่นไหล พวกเขาก้าวไปอีกขั้นในการนำความสมจริงทางกายภาพมาสู่เรื่องราวที่มีพื้นฐานที่น่าจะเข้ากับภาพยนตร์คอมิกเรต R อย่าง “Sucker Punch” หรือ “Sin City” ได้อย่างลงตัว ด้วยบทแทรกที่ปราศจากบทสนทนา แสงแฟลร์เลนส์ และภาพพาโนรามาธรรมชาติที่บ่อยครั้ง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องที่บริสุทธิ์และผิดหวังของ “Badlands” หรือ “True Romance” ผู้กำกับเมลานี โลรองต์ นักแสดงและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศสผู้มีพรสวรรค์ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นการกำกับภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ มองว่าเรื่องราวเป็นเพียงข้ออ้างในการให้นักแสดงสร้างการแสดงที่มีรายละเอียด ภายในช็อตที่จัดวางอย่างพิถีพิถัน ซึ่งให้พื้นที่พวกเขาได้เคลื่อนไหว หายใจ และให้ผู้ชมตัดสินใจว่าจะมองไปทางไหน สัญญาณหนึ่งของความมั่นใจในการกำกับคือเมื่อภาพยนตร์ไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องตัดภาพนักแสดงแบบโคลสอัพทุกครั้งที่พูดบท แต่กลับปล่อยให้กล้องจับภาพพวกเขาขณะที่พวกเขากำลังฟังหรือคิด