Knuckle Girl เจ๊ทวงแค้น 2023 พากย์ไทย
ตัวอย่างหนัง Knuckle Girl เจ๊ทวงแค้น 2023 พากย์ไทย
ดูหนัง Knuckle Girl เจ๊ทวงแค้น 2023 พากย์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ:Knuckle Girl เจ๊ทวงแค้น 2023 พากย์ไทย รัน สาวนักชกได้ตัดสินใจอย่างแรงกล้าที่จะลุกขึ้นใช้ความสามารถของเธอในการต่อกรกับองค์กรอันน่าสงสัยและน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของครอบครัวคนสำคัญของเธอ และการจะก้าวเข้าไปล้วงความลับได้นั้นคงไม่พ้นการเข้าร่วมการแข่งขันใช้กำลังต่อสู้แบบตะลุมบอนที่ถูกจัดขึ้นโดยองค์กรลึกลับแห่งนี้
ก็แปลกที่เมื่อมีหนังแนวนี้ออกมาก็จะบ่นทุกครั้งว่าจะสร้างมาทำไมนักหนาสร้างมาทุกปีปีละสองสามเรื่อง แต่ที่แปลกใจตัวเองไม่แพ้กันคือเมื่อมีหนังแนวนี้มาให้ดูก็ดูทุกทีเหมือนกันคือหนังแอ็กชันผู้หญิงทวงแค้น อาจเพราะผู้หญิงเก่งที่สามารถตะบันหน้าผู้ชายได้จะมีความน่ารักน่าลุ้นและเซ็กซี่ในตัวแล้วที่เพิ่งผ่านตาไปกับหนังแนวนี้ที่ออกมาถี่ๆเพราะเมื่อเดือนที่แล้วทางเกาหลีก็เพิ่งเข้าฉายกับงาน Original ของทาง NETFLIX เรื่อง Ballerina กับจุดขายที่นักแสดงจอนจองซอที่นับว่าฝีมือจัดพอตัว ที่ตัวหนังมาตามสูตรแบบเป๊ะๆกับการเอาสตรีรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรมาไล่เตะตูดพวกผู้ชายให้สะใจเล่นๆโดยที่มีเจตนามาเพื่อความมันส์สะใจเข้าว่าส่วนเนื้อหาเอาแค่เล่าได้ก็พอ ถัดมาเดือนนี้เป็นทีของทาง Prime Video บ้างที่สร้างงาน Original ออกมาที่คงไม่ใช่การเดินตามกันมาเพราะหนังแบบนี้มีสร้างกันมากหลาย ทว่างานนี้มาจากญี่ปุ่นที่มีวัตถุดิบชั้นดีคือการ์ตูนที่สามารถหยิบเอามาดัดแปลงได้ไม่มีวันหมดแล้วคราวนี้ถึงคราวที่ผู้หญิงญี่ปุ่นจะมาแนวนี้บ้างกับจุดขายคืออายากะ มิโยชิหรือหมออันจาก Alice in Borderland 1-2 นั่นเอง รัน ทาจิบานะ (อายากะ มิโยชิ) นักมวยหญิงอนาคตไกลระดับพรสวรรค์ที่มีทั้งความมุ่งมั่นและฝีมือที่กำลังจะได้ขึ้นชิงแชมป์ ทว่าข่าวร้ายก็เข้ามาเมื่อเธอได้รับแจ้งว่ายูซุกิ (มินามิ โคโตนะ) น้องสาวเพียงคนเดียวของเธอฆ่าตัวตาย แต่เมื่อรันได้ไปดูศพน้องสาวเธอกลับจำได้ว่าร่างที่ไหม้เกรียมนั้นไม่ใช่ร่างของน้องสาวเธอเพราะมีรูปแบบของฟันที่ไม่เหมือนกันแต่ทางตำรวจไม่เชื่อเพราะมีหลักฐานแน่ชัด แล้วเมื่อรันไปเก็บของของยูซุกิเธอก็พบเบาะแสว่าน้องสาวของเธอเคยไปที่คลับไต้ดินแห่งหนึ่งที่มีการจัดการชกมวยเถื่อนเธอจึงไปตามหา แต่สุดท้ายก็ถูกโยนออกมาแต่ทุกเหตุการณ์ก็อยู่ในสายตาของนารูเสะ ชูจิ (โฮโซดะ ฮานาตะ) แฮกเกอร์ที่มีจุดหมายบางอย่างและเขาช่วยเธอไว้ จนกระทั่งการพนันมวยไต้ดินมียอดลดลงเพราะหาคู่ที่สมน้ำสมเนื้อไม่ได้รันจึงได้รับการติดต่อให้ไปสู้กับนักสู้ร่างยักษ์ที่ไม่เคยแพ้และกติกาคือการต่อสู้จะสิ้นสุดต่อเมื่ออีกฝ่ายตายคาเวทีถ้าเธอชนะจะได้ตัวน้องคืน แต่รันคือผู้หญิงตัวเล็กกว่าเธอจึงได้รับอนุญาตให้ใช้สนับมือและได้ฉายาว่าสาวสนับมือแล้วเธอจะใช้สองหมัดกับสนับมือช่วยน้องสาวได้หรือไม่ เลือกมาทางระทึกมากกว่าดุเดือดจึงอาจไม่ดิบแต่ก็เล่าเรื่องได้ทำให้มีความเร้าใจ อาจเพราะนี่คือหนังญี่ปุ่นที่จะใช้เวลาในการเล่าเรื่องให้มีแรงจูงใจโดยไม่ขยี้ดราม่าเพราะว่าตั้งใจมาขายความมันส์ ซึ่งกับเรื่องนี้ก็คือหนังที่สร้างมาจากการ์ตูนทำให้การเล่าเรื่องเหมือนการ์ตูนเพราะเลือกเล่าให้สัมผัสกันด้านความสัมพันธ์ที่จะเป็นแรงจูงใจ กระนั้นทุกอย่างก็คือความง่ายมาตามสูตรของหนังแนวนี้คือน้องหายตัวไปพี่สาวที่สู้เก่งก็ต้องไปตามหาน้อง แล้วต้องช่วยน้องด้วยการฝ่าดงหมัดเท้าเข่าศอกท่อนเหล็กหรือดาบคาตานะ เพียงแต่ในความง่ายนั้นจับความสัมพันธ์ได้คือเรื่องของพี่น้องที่มีกันเพียงสองคนมันไม่ต้องเล่ามากแต่เล่าเท่าที่ควรเล่าเพื่อเอาเวลาไปตามหา ซึ่งนอกจากเรื่องตามสูตรแบบนี้เรื่องอื่นๆรอบข้างกลับกลวงโบ๋เบ๋เพราะไม่ได้เล่าเลยทั้งในมุมของเด็กเนิร์ดแฮกเกอร์มุมของตำรวจมุมของแฟนเก่าหรือมุมของผู้ร้าย นั่นหมายความว่าหนังไม่ได้ตั้งใจมาลึกแต่ตั้งใจมาระทึกเพราะฉากต่อสู้คือเอากันเจ็บๆอ่วมอรทัยต้องเอาใจช่วยความดิบจึงไม่มีเพราะความดุเดือดไม่มา ซึ่งก็ต้องเป็นอย่างนั้นเพราะนี่คือหนังแอ็กชันที่ซัดกันด้วยมือด้วยเท้าจะให้ดุเดือดเลือดพล่านเหมือนการสาดกระสุนใส่กันก็คงไม่ได้ อาจไม่ระห่ำแต่ฉากแอ็กชันก็ดูดีมีความเป็นมนุษย์ที่ไม่ได้เก่งจนเลิศลอยแต่ก็มันส์ได้ใจ จะว่าไปนี่ไม่ใช่หนังที่มันส์ระห่ำแต่เป็นความมันส์ที่ได้ใจและสมจริงต่างไปจากหนังแนวนี้ เพราะด้วยชนวนเหตุหรือด้วยสถานการณ์เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตัวละครก็บอกแล้วว่าเป็นนักมวยแถมด้วยการซ้อมอย่างหนักก่อนมาสู้ในสังเวียนอย่างที่เคยๆอ่านในการ์ตูน แล้วก็ใช่ว่าจะเก่งเอาชนะโดยไร้รอยขีดข่วนแต่กลับปางตายให้คนดูได้ลุ้นเอาใจช่วยสุดใจแถมท้ายผู้ร้ายก็ต้องพ่ายแพ้ต่อ…เออเจ๋งดีที่มีความเป็นมนุษย์มากกว่าเรื่องก่อนๆที่ตัวเอกจะเก่งกาจจนจัดการได้หมด ทั้งนี้แม้จะไม่ใช่หนังแอ็กชันที่เดินหน้าแล้วฆ่ามันคือสร้างสถานการณ์เพื่อไปหาความมันส์สะใจอย่างเคยๆทำให้ฉากแอ็กชันที่มีอาจดูไม่เยอะเท่าที่เคยเห็นมาในหนังแนวนี้ แต่เท่าที่มีคือมีที่มาที่ไปไม่ใช่หาเรื่องไม่ค่อยฉลาดไปสู้เอาข้างหน้าจนคนดูอุทานว่าอิหยังวะนั่นคือมีความสมเหตุสมผลในเรื่องแรงจูงใจและสถานการณ์ในการต่อสู้ของสาวสนับมือทำให้รู้สึกว่าจังหวะมันใช่ ส่วนฉากต่อสู้แบบต่อยตีนั้นก็มีความสะใจใช้ได้เมื่ออัดกันอย่างสนุกและลีลาท่าทางออกมาดูดีจนกระทั่งลืมข้อบกพร่องหลายอย่างที่มีไปได้เหมือนกัน ความเร่าร้อนรุนแรงจากเสน่ห์ของ “อายากะ มิโยชิ” ที่ดูดีในทุกอิริยาบทและไม่ขัดตาในฉากแอ็กชันเมื่อความเซ็กซี่มาพร้อมความเท่ สำหรับอายากะ มิโยชินั้นเป็นที่รู้จักของคนดูในบ้านเราจากบทหมออันใน Alice in Borderland 1-2 ที่เรียกว่าทั้งขโมยซีนและขโมยหัวใจไปพร้อมๆกันด้วยความเท่ที่มี ส่วนเรื่องนี้เธอมาในการแสดงที่เอาดีได้เลยในการเป็นแอ็กชันสตาร์เพราะรูปร่างที่ดีมากและการรับบทนักมวยไม่ดูขัดเขินทำให้ในฉากแอ็กชันไม่ดูขัดตา เพราะคนดูเชื่อไปแล้วว่าเธอคือนักมวยที่มีทักษะการต่อสู้และการที่เธอแสดงเรื่องนี้ด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นที่ไม่แน่ใจว่าบทหนังจงใจให้มีความเร่าร้อนรุนแรงของเสน่ห์ของเธอออกมาหรือไม่ เพราะแม้การแสดงซีนอารมณ์จะยังไม่เข้าที่เพราะหนังไม่ได้มาลึกในทางนั้นแต่กับฉากอื่นๆที่แสดงทางภาษากายและเชิงกายภาพอายากะ มิโยชิจัดการสายตาคนดูได้อยู่หมัด เพราะเธอออกมาดูดีในทุกอิริยาบทมีความสวยมีความเท่มีความสง่าจนกระทั่งว่านี่คือหนังของเธอคนเดียวโดยที่ไม่มีใครขโมยสายตาไปจากเธอได้เลย นั่นคืออายากะ มิโยชิคือคนแบกหนังเรื่องนี้ให้ดูดีขึ้นอีกเป็นกอง อาจไม่ใช่ความมันส์แบบ Non-Stop แต่ด้วยความที่มีเนื้อมีหนังบ้างทำให้ยังดูสนุกตื่นเต้นเร้าใจ บ่อยครั้งที่หนังแอ็กชันมักจะมาเพื่ออัดฉากแอ็กชันโดยไม่สนสี่สนแปดอะไรคือทำยังไงก็ได้ให้ตัวละครไปสู้กันซึ่งมันก็มันส์ดีอยู่หรอก แต่อะไรก็ตามที่มันเยอะไปก็ล้าจนน่าเบื่อแถมถ้าการพาไปยังจุดนั้นยังไปด้วยการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดหรือขาดแรงจูงใจที่มากพอนั่นคือมีทางเลือกอื่นทำไมไม่ไปทำ แต่กับเรื่องนี้ไม่ใช่ไม่มีทางเลือกแต่ทางเลือกถูกปิดตายด้วยการต้องเจอกับตำรวจกังฉินสิ่งที่ทำได้คือพยายามสืบเองจนเจอเงื่อนไขมาให้ต้องสู้เจ๊จึงหยิบสนับมือออกมาสู้ ดังนั้นฉากแอ็กชันในหนังเรื่องนี้จึงมีที่มาที่ไปไม่ได้พาตัวเองไปหาเรื่องไม่ฉลาดทำแต่มันไม่เหลือทางเลือกนั่นก็คือหนังเล่าเรื่องฐานรากได้ดีพอประมาณ ผลที่ได้คือหนังยังดูสนุกตื่นเต้นเร้าใจมีความระทึกใจในฉากต่อสู้เพราะนักแสดงหรือตัวละครได้ใจคนดูไปหมดแล้วแม้จะด้วยเสน่ห์ส่วนตัวไม่ใช่มิติตัวละครแต่ได้ก็คือได้ แม้ว่าเหตุการณ์รอบข้างมากมายจะไม่มีอะไรเลยเป็นหนังตามสูตรที่ถ้านับเป็นตัวหนังคือมาเพื่อฆ่าเวลาแต่กับนักแสดงอายากะ มิโยชิกลับติดตาพาให้หนังดูเพลิน