Memory จำทวงแค้น 2022 พากษ์ไทย
ตัวอย่างหนัง Memory จำทวงแค้น 2022 พากษ์ไทย
ดูหนัง Memory จำทวงแค้น 2022 พากษ์ไทย เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ: Memory จำทวงแค้น 2022 พากษ์ไทย นักฆ่ารับจ้างพบว่าเขาตกเป็นเป้าหมายหลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะทำงานให้องค์กรอาชญากรรมอันตราย รีเมคจากภาพยนตร์เบลเยียมเรื่อง ‘The Memory of a Killer’ ปี 2003 เป็นการดูแบบเพลย์เซฟ เพราะหนังระยะหลังของป๋า Liam Neeson มักอยู่ในระดับดูได้ แต่ไม่เด็ดแบบจัดๆ และสำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าตามนั้นครับ ไม่ได้สนุกแบบสุดๆ แต่อาจเป็นเพราะผมไม่คาดหวังนี่แหละเลยรู้สึกโอเคกับหนังมากกว่าที่คิด ดูจบแล้วไม่รู้สึกผิดหวังอย่างแรกเลยคือใครคาดหมายจะได้ดูหนังแบบป๋า Liam เป็นนักฆ่ามือพระกาฬแล้วโชว์เทพตลอดก็อาจต้องปรับขีดความคาดหวัง เพราะเรื่องนี้แม้ป๋าแกจะเทพอยู่ แต่ก็มีพลาดมีพลั้งอยู่เหมือนกัน แล้วที่สำคัญคือบทอเล็กซ์ เลวิสที่ป๋าแสดงนั้นมีอาการอัลไซเมอร์ด้วยครับ เรื่องนี้ป๋าเขาเลยไม่ได้มาแบบเท่ห์ๆ แต่มาแบบมนุษย์ที่เจ็บเป็นป่วยเป็นเรื่องนี้รีเมคมาจากหนังเบลเยี่ยมเรื่อง The Memory of a Killer ซึ่งสร้างมาจากนิยายของ Jef Geeraerts อีกที ตัวเอกคือนักฆ่ามือดีที่ปฏิเสธงานชิ้นหนึ่ง ส่งผลให้เขาต้องโดนตามเก็บ แล้วไปๆ มาๆ นักฆ่ารายนี้ก็เดินหน้าท้าลุยกระชากหน้ากากผู้จ้างวานที่พยายามปกปิดความผิดบางอย่าง – ก็ได้ข่าวว่าต้นฉบับทำได้สนุกครับ แต่เนื่องจากยังไม่เคยได้ดูเลยไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ได้แต่พูดของฉบับนี้เป็นหลักน่ะนะครับหนังถือว่าออกแนวระทึกขวัญเป็นหลักครับ ส่วนแอคชั่นถือเป็นองค์ประกอบ แต่อย่างน้อยตอนบู๊ป๋า Liam ก็สร้างความสะใจได้อยู่โดยเฉพาะตอนบู๊กันในลานจอดรถนั่นดีกรีความเดือดถือว่าน่าพอใจ เพียงแต่ก็ต้องบอกก่อนว่าบู๊ไม่เยอะครับเรื่องนี้ ออกแนวระทึกขวัญสืบสวนแล้วก็กดดันมากกว่าตัวหนังมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามครับ แต่ความเข้มข้นยังไม่เต็มที่นัก การเดินเรื่องช่วงต้นๆ ออกจะเรื่อยๆ อยู่ สารภาพว่ามีแอบเงกอยู่บางจังหวะเหมือนกัน ต้องมาตอนที่ป๋า Liam เริ่มโดนล่าตอนนั้นแหละถึงจะเริ่มเข้าท่าขึ้นพลังสำคัญของหนังผมยกให้ป๋า Liam เลยครับ ยังไงเขาก็คือนักแสดงมากฝีมือคนหนึ่งของวงการ เขาทำให้บทอเล็กซ์นักฆ่าอัลไซเมอร์คนนี้ดูมีมิติเท่าที่เขาจะทำได้ บางวาระนี่รู้สึกเห็นใจตัวละครนี้เลยครับ แล้วฉากที่ถือว่าโดนสุดๆ คือตอนที่เขาดูภาพจากแฟลชไดร์ฟแล้วน้ำตาไหลนั่น ผมยกนิ้วให้ป๋าเขาเลยครับ ป๋าแกถ่ายทอดออกมาได้ถึงจริงๆดาราแวดล้อมในเรื่องก็ถือว่าดีเหมือนกันครับ Guy Pearce รับบทวินเซนต์ เซอร์ร่า เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับคดี ผมชอบที่หนังนำเสนอให้เห็นแบบชัดเจนว่าตัวละครนี้เป็นฝ่ายดีหรือฝ่ายร้าย คือไม่ต้องมาเดาเลยครับ ภาพคาแรคเตอร์ตัวละครนี้จัดว่าชัดและ Pearce ก็แสดงออกมาได้ดีทีเดียว – แต่ก็ยอมรับว่าเขาดูโทรมไปเยอะเหมือนกันแฮะTaj Atwal กับ Harold Torres มาเป็นลูกน้องในทีมของวินเซนต์ พวกเขาก็แสดงได้โอเคเท่าที่บทจะอำนวย เช่นเดียวกับ Ray Stevenson ที่บทไม่เยอะ แต่ก็มีความชัดของคาแรคเตอร์เช่นกัน ส่วน Monica Bellucci ในบทดาวาน่า ซีลแมน รายนี้ก็มาในมาดนักธุรกิจที่ฉากหน้าเป็นคนใจดีมีเมตตา แต่ลับหลังก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก เราก็จะได้เห็นครับว่าเธอเองก็มีความขัดแย้งในใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกันแม้หนังจะไม่เน้นแอคชั่น แต่ผมก็โอเคกับผลลัพธ์ของมันอยู่นะ คือไม่ได้ชอบแบบจัดๆ หรอกครับ แต่รู้สึกโอเคตามแนวทางที่หนังเป็น คือเป็นหนังระทึกขวัญตามล่าตามสืบที่มีกลิ่นอายของหนังยุโรป บางท่วงท่าลีลาเลยจะไม่เชิงเป็นฮอลลีวู้ดนักซึ่งกลายเป็นว่าผมโอเคนะ อย่างน้อยคือป๋า Liam ก็ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่จนเกินไป หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกสไตล์ที่ไม่ได้เน้นแอคชั่นแบบที่ป๋าแกเล่นประจำหนังกำกับโดย Martin Campbell ที่หลายคนคงจำเขาได้จากหนังบอนด์ตอน GoldenEye และ Casino Royale รวมถึง The Mask of Zorro และ Vertical Limit เรียกว่าดูเป็นผู้กำกับสายแอคชั่น แต่เอาเข้าจริงหนังสายระทึกขวัญพี่เขาก็ทำไว้หลายเรื่องครับ ไม่ว่าจะ Beyond Borders, Edge of Darkness และ The Foreigner ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็ถือเป็นผลงานระดับกลางๆ ของเขาครับ คือดูแล้วก็มีความระทึกอยู่พอตัว แต่พลังในการเดินเรื่องยังไม่เยอะ พลังส่วนใหญ่ที่ช่วยหนังไว้คือฝีมือดารามากกว่าและประเด็นหลักที่หนังเล่นแบบเต็มๆ คือความเหลื่อมล้ำในสังคม ความจริงอันน่าเหนื่อยใจยามนึกถึงเราอยู่ในโลกที่คนรวยจำนวนหนึ่งมีโอกาสและอำนาจจะทำอะไรได้หลายอย่าง รวมถึงการทำผิดแล้วก็ปกปิดมันเสมือนหนึ่งว่าไม่เคยเกิดขึ้น ไหนจะการเล่นกลกับกฎหมายให้ตนเป็นฝ่ายพ้นผิดและได้ประโยชน์อีก – และในทางกลับกันคนบางกลุ่มอย่าว่าแต่โอกาสเลยครับ ลำพังแค่บ้านยังไม่มีจะอยู่ แล้วที่อนาถหนักก็คือ คนจนก็ด้อยโอกาสอยู่แล้ว แต่คนมีอำนาจและเงินตราบางคนยังอุตส่าห์จ้องจะเอาเปรียบพวกเขาอีก – นึกถึงเรื่องนี้ทีไรเป็นอันต้องส่ายหน้าจนหัวปวดทุกทีกลับมาเรื่องหนังนะครับ โดยรวมผมว่าโอเคนะ เพียงแต่ต้องปรับโฟกัสให้เหมาะเสียก่อน ตระหนักก่อนว่าหนังไม่เน้นแอคชั่นและป๋า Liam มาในเวอร์ชั่นมนุษย์ที่แม้จะยังเทพอยู่ในบางจังหวะ แต่ก็ไม่ได้เท่ห์เหมือนเรื่องก่อนๆ และตัวหนังเองอาจยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร แต่ก็ยังดีที่ได้ดารามาช่วยอุ้มหนังไว้สำหรับประเด็นเกี่ยวกับความทรงจำอันเป็นชื่อหนังนั้น ก็มีบทบาทในหนังไม่เยอะครับ อันนี้ก็ผิดคาดนิดๆ นึกว่าจะเล่นกับปมความทรงจำมากกว่านี้ แล้วไปๆ มาๆ การได้เห็นหน้า Guy Pearce โผล่มาในเรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึงหนังว่าด้วยการสืบสวนความทรงจำแบบเด็ดๆ อย่าง Memento ขึ้นมาจนได้ (แน่นอนว่าเรื่องนั้นเด็ดกว่าเยอะ)